แอนดรูว์ ไบลีย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงในวันศุกร์ (4 ก.พ.2565) เนื่องจากมีแรงเทขายในหุ้นทุกกลุ่มนำโดยหุ้นกลุ่มรถยนต์ ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 462.15 จุด ลดลง 6.48 จุด หรือ -1.38% ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,951.38 จุด ลดลง 54.25 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,099.56 จุด ลดลง 268.91 จุด หรือ -1.75% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,516.40 จุด ลดลง 12.44 จุด หรือ -0.17% ทั้งนี้หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง 3.34% หลังการเปิดเผยข้อมูลใหม่ในวันศุกร์บ่งชี้ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ของสหราชอาณาจักรในเดือนม.ค.อยู่ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดราว 23% อีกทั้งตลาดหุ้นยุโรปยังคงถูกกดดันจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2547 ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในยูโรโซน ด้านนายแอนดรูว์ ไบลีย์ ผู้ว่าการ BoE เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) ว่า มีแนวโน้มที่ BoE จำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หลังจากปรับขึ้นสู่ระดับ 0.5% เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีในเดือนม.ค. นอกจากนี้ตลาดยังถูกถ่วงลงจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกในยูโรโซนที่ลดลง 3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนธ.ค. แต่เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนธ.ค. ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสหดตัวลง 0.2% ระหว่างเดือนพ.ย.-ธ.ค. สำหรับราคาหุ้นของบริษัทแอดไลฟ์ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ของสวีเดน ร่วงลง 26.3% แม้รายงานผลประกอบการขยายตัว 59% ในปี 2564 โดยบริษัทประกาศในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า คริสตินา วิลการ์ด ซีอีโอ จะลาออกจากบริษัทในปีนี้