โครงการพื้นที่ปลูกป่าชายเลน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(19ก.ย.65) ราคาหุ้นบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG ณ เวลา 11:38 น. อยู่ที่ระดับ 12.00 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 8.11% สูงสุดที่ระดับ 13.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 775.22 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาด 12 ก.ค.61 โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงคาด TEAMG ซึ่งมีความชำนาญงานที่ปรึกษาโครงการด้านระบบน้ำและสิ่งแวดล้อม จะได้รับงานที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม หลังจากที่บริษัท ดิตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO โดย บริษัท สยาม ทีซี.เทคโนโลยี จำกัด ได้ทำการลงนามเข้าร่วมโครงการพื้นที่ปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ประจำปี 2565 จำนวน 11,445.81 ไร่ กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านนายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DITTO เปิดเผยว่า บริษัท สยาม ทีซี.เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามเข้าร่วมโครงการพื้นที่ปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ประจำปี 2565 จำนวน 11,445.81 ไร่ กับกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีระยะเวลาในการดูแลรักษาป่า 30 ปี สำหรับเงื่อนไขของโครงการ คือ ผู้พัฒนาโครงการจะได้รับการจัดสรรคาร์บอนเครดิตจากโครงการดังกล่าวไปบริหารจัดการในสัดส่วน 90% และจัดสรรให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 10% ทั้งนี้ สาเหตุที่ทางดิทโต้เลือกปลูกป่าชายเลน เนื่องจากมีข้อมูลทางวิชาการที่ได้จากผลการศึกษาวิจัย พบว่า ป่าชายเลนสามารถดูดซับ คาร์บอนเครดิตได้ 8-10 ตันต่อไร่ต่อปี ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนที่ส่งสินค้าออกไปยังตลาดยุโรป จะได้รับผลกระทบจากระเบียบ CBAM หรือ Carbon Border Adjustment Machanism ที่ทางยุโรปบังคับใช้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายจากการที่ทางยุโรปเรียกเก็บภาษีการปล่อยคาร์บอน ถึงตอนนั้นเอกชนไทย ต้องซื้อมาชดเชย หากลดในกระบวนการอื่นแล้วยังมีส่วนที่ปล่อยเกิน อย่างไรก็ดีคาดว่า ยุโรปจะมีการบังคับใช้ CBAM ภายในปี 2568 โดยบริษัทจะขายคาร์บอนเครดิตให้กับคู่ค้าหรือบริษัทต่างๆ ที่ต้องการคาร์บอนเครดิตเพื่อการส่งออก ด้าน บล.บัวหลวง ระบุว่า โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจใหม่ของดิทโต้ โอกาสที่จะเพิ่มกำไรในอนาคตมีมากถึง 50% ต่อปี และยังเป็นรายได้หรือกำไรที่เกิดขึ้นประจำอย่างต่อเนื่องตลอด 30 ปี จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”