โครงการลม

บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/66 และงวด 9 เดือนแรกของปี 66 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.66 มีกำไรสุทธิลดลง ดังนี้ สำหรับไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 461.91 ล้านบาท ลดลง 69.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,539.45 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายไฟฟ้าและส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าจำนวน 607.35 ล้านบาท ลดลง 19.13% เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนแสดงจำนวน 750.98 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักจากมีการเปลี่ยนแปลงส่วนได้เสียในบริษัทย่อยเป็นการร่วมค้าของโครงการลม เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 โดยบริษัทฯ ได้มีการแบ่งสัดส่วนการถือหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 50 ในกลุ่มโครงการลม และเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้จากการรับรู้ในงบการเงินรวม เป็นวิธีการรับรู้ตามสัดส่วนในรายการส่วนแบ่งกำไรในสัดส่วนร้อยละ 50 ในส่วนของ GUNKUL และอีกร้อยละ 50 ในบริษัทร่วมทุนให้แก่ บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด ส่งผลให้ไม่ได้มีการบันทึกรายได้จากการขายไฟฟ้าพลังงานลม และได้บันทึกรายได้ดังกล่าวในส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ใช้วิธีส่วนได้เสียแทน อย่างไรก็ตามในส่วนธุรกิจอื่นๆ บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น อย่างเช่นรายได้จากการก่อสร้างและให้บริการอยู่ที่ 627.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.26% เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนแสดงจานวน 471.04 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับลูกค้าภาคเอกชน รวมถึงรายได้จากการขายทรัพย์สินตามสัญญาเช่าเงินทุนอยู่ที่ 461.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 860.39% เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อน 48 ล้านบาท เกิดจากรายได้ในส่วนของรายได้จากการขายไฟฟ้าบนหลังคาให้กับภาคเอกชนซึ่งเป็นสัญญาระยะยาว 10 – 15 ปี ซึ่งเป็นรายได้ที่เกิดจากการขายทรัพย์สินตามสัญญาเช่าเงินทุน จากการปรับของมาตรฐานทางบัญชี (TFRS 16) ขณะเดียวกันมีกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์อยู่ที่ 145.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.96% เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อน 72.09 ล้านบาทโดยเกิดจากการทำสัญญาแลกเปลี่ยนเงินสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐจากโครงการพลังงานลมในอดีต และสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยจากโครงการพลังงานไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งเริ่มบันทึกตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 9 เรื่องเครื่องมือทางการเงินซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป นอกจากนี้ส่วนของรายได้อื่นอยู่ที่16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.02% เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนแสดงจานวน 9.76 ล้านบาท โดยเกิดจากรายได้จากการขายไฟฟ้าให้แก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่ยังไม่ได้ส่งมอบโครงการแก่ลูกค้า แต่ได้มีการบันทึกรับรายได้ค่าขายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 1,369.43 ล้านบาท ลดลง 51.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,821.13 ล้านบาท ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 66 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 66 เป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 0.06 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย (XD) วันที่ 22 พ.ย. 66 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 ธ.ค. 66