โครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง

เริ่มชัดเจนขึ้นทุกขณะ กับเขื่อนใหญ่ในสปป.ลาว ที่ชื่อว่า โครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง (โครงการ LPHPP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบไหลผ่านตลอดทั้งปี ที่ไม่มีการกักเก็บน้ำ มีกำลังการผลิตรวม 1,460 เมกะวัตต์ มีสัญญาขายไฟฟ้าทั้งหมดให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ระยะเวลา 35 ปี โดยกำหนดจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 ม.ค. 2573... ล่าสุดมีความชัดเจนเรื่องโครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัท หลวงพระบางพาวเวอร์ จํากัด (LPCL) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบางแล้ว โดยพบว่ามี 3 กลุ่มทุนใหญ่ ได้แก่ กลุ่มทุนจากฝั่งไทย กลุ่ม ช.การช่าง ซึ่งถือหุ้นทางตรงและทางอ้อมรวมสัดส่วน 52% แบ่งเป็น บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จํากัด (มหาชน) หรือ CKP ถือหุ้น 42% และบริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน) หรือ CK ถือ 10% ตามมาด้วยกลุ่มทุนลาว ถือในนามบริษัท พีที จํากัดผู้เดียว (PTS) สัดส่วน 38% ส่วนกลุ่มทุนเวียดนาม โดยบริษัท ปิโตรเวียดนาม พาวเวอร์ จํากัด (PVP) ถือหุ้น 10%... ก็น่าสนใจนะ แต่เอ๊ะ..!! มาสะดุดตาที่บริษัท พีที จํากัดผู้เดียว นี่แหละ เพราะมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นนักธุรกิจหญ่ายยยลาวที่ชื่อว่า “เดวิด แวน ดาว”..!! พอเห็นชื่อ “เดวิด แวน ดาว” ปุ๊บ ก็พลอยทำให้นึกถึงหุ้นอีกตัวหนึ่งปั๊บ นั่นคือ บริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSG ซึ่งแปลงร่างมาจากบริษัท ที เอ็นจิเนียร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ T เมื่อปีที่แล้ว โดยปัจจุบันปรากฏชื่อ “ปณิชา ดาว” ศรีภรรยาของ “เดวิด แวน ดาว” ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 80%... ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง PSG กับโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบางอยู่นะเนี่ย..!? มีความเป็นไปได้ว่า สิ่งที่ PSG มีโอกาสทางอ้อม หรือจะเป็นทางตรงเลยก็ได้นะ น่าจะเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานของโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง เนื่องจาก PSG มีโปรไฟล์เคยรับงานก่อสร้างโครงการเหมืองถ่านหินที่สปป.ลาวมาแล้ว แหม๊...“เฮียเดวิด แวน ดาว” ในฐานะผู้ถือหุ้นบริษัท หลวงพระบางพาวเวอร์ คงไม่กินยาผิดซอง โยนงานพวกนี้ให้คนอื่นหรอกมั้ง...เชื่อหัวไอ้เรืองสิ เบื้องต้นเป็นงานที่ PSG จะรับรู้เข้ามาได้ก่อน เพราะงานโครงสร้างพื้นฐานต้องเริ่มดำเนินก่อน...ซึ่งจะช่วยเติมแบ็กล็อก PSG ให้แน่นขึ้น...ส่วนประโยชน์อย่างอื่นก็คงตามมาอีกในอนาคต พอดูออกแหละ..!? เอ๊ะ...อย่างนี้ก็มีโอกาสที่จะเห็น PSG โตแรงงงส์น่ะสิ หลังจากเริ่มเข้าสู่โหมดการเติบโตอย่างชัดเจน...จากผลงานในไตรมาส 2/2565 ที่พลิกมามีกำไร 267.68 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 16.08 ล้านบาท ส่งผลให้ช่วง 6 เดือนแรกปี 2565 พลิกมีกำไร 248.67 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 31.37 ล้านบาท ดังนั้น ถ้าไม่สะดุดยอดหญ้าไปซะก่อน ปิดงวดสิ้นปีนี้น่าจะเห็นตัวเลขกำไรแหง ๆ ส่วนจะเป็นเท่าไหร่นั้น...โปรดอดใจรอ... ถ้ารูปเกมเป็นไปตามนี้ PSG จะเป็นอีกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเขื่อนใหญ่ในสปป.ลาวไปเต็ม ๆ เลยนะ... อ้อ...ได้ข่าวว่า “เฮียเดวิด แวน ดาว” คอนเน็กชั่นในสปป.ลาวแน่นปึ้กเชียวน้า..!! เรื่องทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้ค่ะคุ้ณณณณ..!!?? ...อิ อิ อิ...