โครงการ The Happita

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(17 ธ.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ปิดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 57.00 บาท ลบ 2.00 บาท หรือลดลง 3.39% ราคาต่ำสุด 56.00 บาท ราคาสูงสุด 57.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4,383.39 ล้านบาท ด้านบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ปิดตลาดภาคเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 27.75 บาท ลบ 0.75 บาท หรือลดลง 2.65% ราคาต่ำสุด 27.00 บาท ราคาสูงสุด 28.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1,124.34 ล้านบาท อนึ่งวานนี้(16 ธ.ค.67)นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือ AIMC เปิดเผยว่า สมาคมเตรียมประชุมหารือสมาชิกในสัปดาห์หน้า เพื่อปรึกษาหารือกรณี CPAXT ตั้งบริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด (AGP) ถือหุ้นในสัดส่วน 95% เพื่อเข้าลงทุนบริษัท แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์ จำกัด (HATF) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use Development) ภายใต้โครงการ The Happitat โดยจะพิจารณาหลักธรรมาภิบาล (Good Corporate Governance) เนื่องจากการเข้าลงทุนดังกล่าวเข้าข่าย Related transaction หรือ การเข้าทำรายการของบริษัทจดทะเบียนกับบุคคลเกี่ยวโยงกัน ขณะเดียวกันในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ได้ทำการพูดคุยภายในเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเช่นกัน นางชวินดา กล่าวว่า กรณี CPAXT ถูกพิพากษาแล้ว สะท้อนความกังวลของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันก็มีความกังวล เราต้องมาตรวจสอบในแง่ของ Good Corporate Governance ติดเกณฑ์อะไรที่เป็นข้อกังวล เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการประชุม อีกทั้งล่าสุดมีการรายงาน นายก่อศักดื์ ไชยรัศมีศักดิ์ รองประธานกรรมการ CPAXT และ รองประธานกรรมการ CPALL ทำธุรกรรมขายหุ้น CPALL จำนวน 877,100 หุ้น ออกไปในราคาเฉลี่ย 62.88 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 โดยสันนิษฐานว่าเป็นการทำรายการขายบนกระดานซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วไปของตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. จากการสำรวจพบว่า ช่วงเวลาที่นายก่อศักดิ์ขายหุ้น CPALL จำนวนดังกล่าวออกไปนั้น คิดเป็นจำนวนวันเท่ากับ 5 วันทำการ ก่อนหน้า CPAXT รายงานสารสนเทศต่อ ตลท. เกี่ยวกับการประกาศตั้งบริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส จำกัด ขึ้นมา เพื่อลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ลักษณะมิกซ์ยูส เดอะ แฮปปี้แทท ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง ซีพี แอ็กซ์ตร้า ถือหุ้น 95% โดยชำระค่าหุ้นออกใหม่เป็นเงินสด 7,970 ล้านบาท และบริษัท เอ็มคิวดีซี ทาวน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 5% เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 กล่าวคือ นายก่อศักดิ์ ขายหุ้น CPALL เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม และ CPAXT แจ้งข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญที่อาจมีผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในวันที่ 13 ธันวาคม โดยในเอกสารการเปิดเผยสารสนเทศของ CPAXT ไม่ได้มีการระบุถึงวันที่คณะกรรมการบริษัทฯมีมติ หรือมีการอนุมัติธุรกรรมที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ทั้งนี้ CPALL เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งของ CPAXT ด้วยจำนวน 3.64 พันล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 34.91% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเสนอขายทั้งหมด ดังนั้นความเป็นไปของทั้งผลการดำเนินการและราคาหุ้นของ CPAXT ย่อมส่งผลสะท้อนตามสัดส่วนต่อ CPALL ขณะที่นายก่อศักดิ์ดำรงตำแหน่งเป็นทั้งรองประธานกรรมการ CPALL และที่สำคัญคือเป็นรองประธานกรรมการของ CPAXT ด้วย ด้านนักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง ระบุว่า ราคาหุ้น CPAXT และ CPALL ปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้ตอบรับประเด็นที่สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เตรียมนัดสมาชิกประชุมสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเรื่องการลงทุนในหุ้น CPAXT และ CPALL หลังจากมีมติเข้าร่วมทุนกว่าเบื้องต้น 8 พันล้านบาทในโครงการ The Happitat ซึ่งเป็นของบริษัทในเครือซีพี โดยจะพิจารณาหลักธรรมาภิบาล (Good Corporate Governance: CG) เนื่องจากเข้าข่ายการทำรายการกับบุคคลเกี่ยวโยง ทั้งนี้กองทุนที่ยึดหลักการลงทุนอิง ESG และ CG โดยเฉพาะกองทุน ThaiESG อาจถูกบังคับขายหุ้นที่มีปัญหาด้าน CG ออกมา แม้จะเป็นแค่เหตุสงสัยก็คงต้องขายออกมาก่อน เพราะการทำรายการของ CPAXT ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลมาก่อน ไม่มีการตั้งที่ปรึกษาประเมินความเหมาะสมการลงทุน จึงอาจถูกมองวาไม่โปร่งใส และยังพบว่านักลงทุนสถาบันขายหุ้น CPALL ออกมาแล้วกว่า 2 พันล้านบาทเมื่อวานนี้ เพราะ CPALL ถือหุ้นใหญ่ใน CPAXT นอกจากนั้น นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ รองประธานกรรมการ CPALL และ CPAXT ได้รายงานการขายหุ้น CPALL ในวันที่ 3 ธ.ค.67 จำนวน 877,100 หุ้น ราคาหุ้นละ 62.88 บาท โดยทำรายการก่อนวันที่ CPAXT แจ้งทำรายการเข้าลงทุนใน The Happitat เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.67 นักวิเคราะห์รายเดิม กล่าวว่า นักลงทุนยังมองว่าการที่ CPAXT ลงทุนโครงการ The Happitat จะกดดันกำไรปี 68 และอาจถึงปี 69 เพราะมีดอกเบี้ยเงินกู้ที่ใช้ลงทุน ซึ่งจะกระทบกับราคาเป้าหมายเพียง 0.20-0.30 บาท แต่ราคาหุ้นปรับตัวลงเกือบ 20% จากความกังวลปัญหา CG ทั้งนี้ คาดว่าราคาหุ้น CPAXT , CPALL จะลงต่อเนื่องไปอีก 2-3 วันก่อนที่ราคาจะเริ่มนิ่ง พร้อมยกเคสเมื่อ 7-8 ปีที่แล้วที่หุ้น CPALL ร่วงติดต่อกันหลังผู้บริหารใช้ข้อมูลอินไซด์ก่อนดีลใหญ่จะเกิดขึ้น ฉะนั้น หากสมาคม AIMC จะมีผลการประชุมหารือในสัปดาห์หน้า ราคาหุ้นไม่น่าจะปรับลงไปกว่านี้ และโอกาสซื้อกลับในวันที่ 4 ที่ราคาหุ้นตกต่อเนื่องมา ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 2 "แง่ปัจจัยพื้นฐาน ราคาลงมา 20% แล้ว ถ้าราคา CPAXT ราคาลงเกิน 25% ก็ Over React แนะนำถ้าราคาต่ำก็น่าสนใจ เพราะเป็นหุ้นมีปันผลด้วย ยังเป็นบริษัทชั้นนำที่มียอดขายดีทั้งโลตัสและแม็คโคร ส่วน CPALL ราคาลงมาถูก ราคาลงมาแถว 55-56 บาทก็น่าสนใจ ในแง่ความโปร่งใสถูกหักล้างด้วยราคาหุ้นต่ำ"

โครงการ The Happita

CPALL-CPAXT ร่วงต่อ! กังวลกระทบ CG-ผู้บริหารขายหุ้นก่อนแจ้งดีล “แมกโนเลีย“ 5 วันทำการ

บริษัท บูรพาทัศน์ (1999) จำกัด