โควิดสายพันธุ์ใหม่แอฟริกาใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(26 พ.ย.2564)ราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ณ เวลา 10:53 น. อยู่ที่ระดับ 30.25 บาท ลบ 2.25 บาท หรือ 8.04% สูงสุดที่ระดับ 30.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 28.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท ขณะเดียวกัน ราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ณ เวลา 10:54น. อยู่ที่ระดับ 32.00 บาท ลบ 1.75 บาท หรือ 5.79% สูงสุดที่ระดับ 32.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 716.78 ล้านบาท ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(26 พ.ย.64) ว่า คาด SET แกว่งตัว 1,640 - 1,660 จุด โดยภาวะตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้และการระบาดรอบใหม่ในแถบยุโรป รวมถึง FED ส่งสัญญาณพร้อมจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลด QE เร็วขึ้นหากเงินเฟ้ออยู่ระดับสูงส่งผลให้ Fund flow ผันผวน อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวช่วยหนุนให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้(24พ.ย.64)ด้านเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เผยว่าตลาดหุ้นโลกกลับมาผันผวน จากความกังวลโควิดที่แพร่ระบาดในยุโรป จนมีหลายประเทศกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ในประเทศค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อน ฟันด์โฟลว์ชะลอการไหลเข้า ซึ่งสอดคล้องกับเหตุการณ์โควิดระบาดในอดีต เวลาระบาดหนัก อย่างระลอกที่ 2, 3, 4 เคยกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับฐานเฉลี่ยราว -5% และฟันด์โฟลว์ไหลออกจากตลาดหุ้นทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ดัชนีปรับฐานแรงจากความกังวลโควิด ยังมีหุ้นหลายกลุ่มที่ Outperform ตลาดได้ คือ 1. กลุ่มที่ได้แรงหนุนเฉพาะตัวในช่วงที่เกิดโควิด กลุ่ม PERSON (หุ้นถุงมือยาง), HELTH (การตรวจโควิด, รักษา, วัคซีนทางเลือก), PKG (มีการใช้บรรจุภัณฑ์มากขึ้น),2. กลุ่มที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เหล็ก และ ผลิตภัณฑ์โลหะ (STEEL), วัสดุก่อสร้าง (CONMAT), ยานยนต์ (AUTO), เกษตร (AGRI) ราคาวัตถุดิบต่าง ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น และ3.กลุ่มเทคโนโลยีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON), เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เทรนด์การปรับตัวรับมือโควิด เป็นตัวเร่งให้มีการใช้เทคโนโลยี และการสื่อสารทางไกลมากขึ้น ทั้งนี้ ASPS ได้เจาะลึกค้นหารายชื่อหุ้นที่มักต้านโควิดได้ และมูลค่า ณ ปัจจุบันยังน่าสนใจ โดยผ่านเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้1. ทำผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วงโควิดระลอก 2, 3, 4 ได้ดีกว่า SET มากกว่า หรือเท่ากับ 5%,2. ราคาย่อตัวลงมาจากจุดสูงสุดในปีนี้เกิน 10% และ3. ทาง ASPS ได้แนะนำ “ซื้อ” และมีอัพไซด์เปิดกว้างและได้ผลลัพธ์ด้วย ธีม 15 หุ้นต้านโควิด หลบความผันผวนช่วงสั้นคือ บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASK, บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP, บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER, บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG, บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH บริษัท ทีเอ็มที สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ TMT, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT, บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT, บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI และบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ทั้งนี้ 15 หุ้นดังกล่าวน่าจะเป็นตัวเลือกช่วยสร้างสมดุลให้กับพอร์ตลงทุนได้ ในยามที่นักลงทุนกลับมากังวลประเด็นโควิดในช่วงสั้น