โซลชาร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกระแส “ปลดโค้ช” กำลังเป็นประเด็นที่ร้อนแรงมากสำหรับแฟนฟุตบอล โดยเฉพาะเมื่อมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจเกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งในสโมสรที่มีฐานผู้ติดตามสูงที่สุดในโลก ผลงานชิ้นโบว์ดำแพ้คาบ้าน 5 ลูกในศึกแดงเดือดกับ ลิเวอร์พูล ส่งผลให้เก้าอี้ผู้จัดการทีมของ “โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์” สั่นคลอนและอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล จนเริ่มมีข่าวลือจากสื่ออังกฤษว่า ผู้บริหารสโมสรเริ่มพิจารณาเรื่องการปลดแล้ว หลังจากหนุนหลังมาโดยตลอดเมื่อพูดถึงเรื่องการปลดโค้ช แฟนบอลหลายคนคงสงสัยว่า ในด้านการเงิน สโมสรและตัวโค้ช จัดการกับสัญญาที่เหลืออยู่อย่างไร สโมสรต้องจ่ายเท่าไร ไม่จ่ายได้หรือไม่ และในทางปฏิบัติจริงมีวิธีไหนบ้างในการจัดการสัญญากับโค้ช สำหรับการการปลดโค้ชโดยทั่วไปมีอยู่ 5 รูปแบบ ซึ่งการจ่ายค่าชดเชยจะแตกต่างกันไป 1. สโมสรปลดโค้ช ต้องจ่ายค่าชดเชย เมื่อโค้ชไม่ลาออกและยังมีสัญญาเหลืออยู่ แต่สโมสรต้องการเปลี่ยนโค้ช สโมสรต้องจ่ายค่าชดเชยโดยคิดจากค่าจ้างที่เหลือจนหมดอายุสัญญา หรืออาจมีเงื่อนไขอื่น เช่น ผ่อนจ่ายเป็นงวด หรือจ่ายไม่เต็มจำนวน ขึ้นอยู่กับการตกลงของทั้งสองฝ่าย 2.ปลดแบบไม่ปลด เมื่อต้องการปลดโค้ช แต่ไม่พร้อมจ่ายค่าชดเชยในครั้งเดียว สโมสรอาจใช้วิธีจ่ายเงินเดือนตามปกติจนครบอายุสัญญา แต่โค้ชไม่ต้องทำงานแล้ว เช่นกรณีของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ตอนอำลา ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และมัสซิมิเลียโน อัลกลเรี ตอนแยกทางกับ ยูเวนตุส รูปแบบนี้สโมสรจะได้ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน และอาจไม่ต้องจ่ายเต็มด้วยถ้าโค้ชขอยกเลิกสัญญาพร้อมสละเงินส่วนที่เหลือเพื่อไปรับงานคุมทีมใหม่ 3. ยกเลิกด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในสโมสร เช่น เปลี่ยนเจ้าของหรือมีการเทคโอเวอร์ ส่วนค่าชดเชยก็ขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้อย่างไร 4.สโมสรใช้เงื่อนไขปลด ในการเซ็นสัญญา สโมสรอาจขอใส่เงื่อนไขตามผลงานในสนามได้ เช่น ถ้าผลงานทีมไม่ได้ถึงอันดับที่ต้องการก็สามารถปลดโค้ชได้ทันที โดยอาจมีค่าชดเชยให้เล็กน้อย แต่ไม่จำเป็นต้องเต็มจำนวนที่เหลือในสัญญา เช่นการปลด เดวิด มอยส์ ในปี 2014 5.โค้ชลาออกเอง กรณีนี้โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อโค้ชรู้ตัวว่าทำผลงานไม่ได้ตามเป้าหมาย และขอรับผิดชอบลาออกเอง ส่วนเรื่องค่าชดเชยก็อาจไม่เรียกเลย หรืออาจขอแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้ทางบริษัท หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ได้มองว่าโดยรวมแล้วจะเจรจาง่ายกว่าการปลดแบบกรณีที่ 1 หากจะปลด “โซลชาร์” ต้องจ่ายเท่าไร หลังจากทราบรายละเอียดด้านการเงินของการปลดโค้ชไปแล้ว ลองมาดูกันว่า ยูไนเต็ด ต้องจ่ายเท่าไรถ้าจะปลด โซลชาร์ ออกจากตำแหน่ง ก่อนอื่นต้องชี้แจงให้ทราบว่าตามปกติแล้วตัวเลขค่าเหนื่อยหรือค่าจ้างรายบุคคลทั้งโค้ชและนักเตะในวงการฟุตบอลจะไม่มีตัวเลขทางการ โดยตัวเลขที่เห็นตามหน้าสื่อเป็นข้อมูลที่ได้จากสำนักข่าวต่างประเทศเท่านั้น สำหรับกรณีของ โซลชาร์ สัญญาฉบับปัจจุบันยังมีอายุถึงเดือน มิ.ย. 2024 หรือจบฤดูกาล 2023-2024 ตามข้อมูลยืนยันจากสโมสร ส่วนเรื่องค่าจ้าง สโมสรไม่ได้เปิดเผยตัวเลข แต่เท่าที่สืบค้นจากสื่ออังกฤษพอจะได้ข้อมูลว่า โซลชาร์ ได้รับค่าเหนื่อยปีละ 9 ล้านปอนด์ หากคิดเรื่องค่าชดเชยจากตัวเลขค่าเหนื่อย 9 ล้านปอนด์ และสัญญาที่เหลือประมาณ 2 ปีครึ่ง ถ้าคิดจะปลดโค้ชจริง ยูไนเต็ด ต้องจ่ายค่าชดเชยสูงสุด 22.5 ล้านปอนด์ (ราว 1,030 ล้านบาท) แต่อาจไม่ต้องจ่ายเต็ม ทั้งนี้วงเงินดังกล่าว ขึ้นอยู่กับว่าจะเจรจากับฝ่ายโค้ชอย่างไร การปลด โซลชาร์ อาจทำให้ ยูไนเต็ด ต้องเสียค่าชดเชยเป็นรายจ่ายในบัญชี แต่อย่าลืมว่า สโมสรมีหุ้นจดทะเบียนในตลาดนิวยอร์ก และตอนประกาศดึงตัว คริสเตียโน โรนัลโด้ กลับสู่ถิ่นช่วงปลายเดือน ส.ค. ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกือบ 7% พร้อมมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ ไม่แน่ว่า การตัดสินใจปลด โซลชาร์ และจ่ายค่าชดเชยแค่ไม่กี่สิบล้าน อาจทำให้ราคาหุ้นและมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นไปได้หลักร้อยล้านเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ดี สโมสรก็ต้องมีทิศทางและแผนงานที่ชัดเจนว่าจะทำอะไรต่อไปหากเปลี่ยนตัวโค้ช มิเช่นนั้นก็อาจเป็นแค่ปัจจัยบวกแค่ในระยะสั้นหรือชั่วคราว แต่ระยะยาวยังไม่เห็นว่าจะไปต่อได้อย่างไร