โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนวานนี้จะเป็นอีกครั้งที่นักลงทุนยังให้ความสำคัญกับท่าทีของ FED เหมือนกับวันก่อนๆ ซึ่งเห็นได้จากคำอธิบายต่างๆ ยังก้าวไม่พ้นเรื่อง “ขึ้นดอกเบี้ย” หรือ “คงดอกเบี้ย” ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวตุปัดตุเป๋ตลอดทั้งวัน ก่อนจะจบลงด้วยการเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,389.70 จุด บวกไป 7.90 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.35 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่ออกได้ทั้งสองหน้านะจะบอกให้ *งานนี้หากจะเม้าท์กันแบบซื่อๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แมงลือยังคงเม้าท์มอยด์ว่า นี่ถือเป็นวันตัดสินชะตากรรมตลาดหุ้นไทยอย่างเป็นทางการ และยังเป็นตัวกำหนดโพซิชั่นในการ “ซื้อหุ้น” หรือ “ขายหุ้น” รอบใหม่อีกด้วยนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นกระบวนการทางความคิดชั้นเดียว ไม่ได้มองไปข้างหน้าว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้คืออะไร..แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ วันนี้คงต้องทำตัวไหลลื่นตามกระแสไปก่อนแล้วกัน..อิอิอิ *สำหรับพระเอกของวันที่ค้ำยันดัชนีตั้งแต่ต้นยันจบ “โมนิก้า” ขอยกความดีความชอบให้กับ PTT มีแรงซื้อเข้ามาเป็นระลอก จนสุดท้ายหุ้นขึ้นมาปิดที่ 255 บาท บวกไป 5 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่า 1.70 พันล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นการฟื้นตัวแบบ U-Shape ไม่มีอะไรมากกว่านั้น หลังผู้บริหารระดับเฮดๆ ออกมายืนยันตัวเลขกำไรปีนี้น่าจะพอๆ กับปีก่อน (ไม่รวมสต๊อกน้ำมัน) มันมีความหมายอยู่ในตัว ไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยืดเยื้อนะคะ *เหมือนกับในรายของ ITD มองในมุมของการเด้งขึ้นเที่ยวนี้ก็เป็นเพียงไซเคิล W-Shape ธรรมดาๆ ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ให้ซับซ้อน แถมเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วตั้งแต่ต้นปี 58 “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นตัวนี้ขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 8.50 บาทอีกรอบ ขณะที่ราคาล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.40 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 1.66 พันล้านบาท มันเป็นโอกาสของการเล่นหรือไม่ ลองไปคิดกันเอาเองเจ้าค่ะ *เช่นเดียวกับในรายของ IFEC หุ้นพลังงานทางเลือกที่มีกิมมิคใหม่ๆ โผล่ขึ้นมาให้เห็นตลอดเวลา ล่าสุดราคาหุ้นยืนนิ่งอยู่ที่ 10.20 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 525 ล้านบาท “โมนิก้า” กล้าฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกทันทีว่า มีคนทยอยเก็บของเขาพอร์ต หากมองแก๊ปสั้นๆ มีโอกาสทะยานขึ้นไปทดสอบ high เดิมที่ระดับ 11 บาท หากมองยาวขึ้นไปอีกนิดหนึ่ง คงปักหมุดไว้ที่ 12 บาทนะจ๊ะ *ส่วนหุ้น DTAC ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่กำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ หลังจากโดนถล่มอย่างหนักก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ถือเป็นผลพวงที่มาจากนักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาซื้อ สถานการณ์ของหุ้นถึงดูดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา และมีโอกาสทะยานขึ้นไปทำ double top ที่บริเวณ 70 บาทค่อนข้างสูง หลังวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 65 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่า 490 ล้านบาทแล้วนะซี *อ้อ..เกือบลืมเม้าท์ถึงหุ้นฮอตฮิตอย่าง CPF ไปเสียแล้ว! เดี๊ยนเลยขออนุญาตย้ำหัวหมุดตัวเดิมอีกครั้งว่า หุ้นกำลังไต่เพดานบินขึ้นไปเรื่อยๆ บวกกับได้แรงหนุนจากเส้น 10 วันทำมุมเอียง 45 องศา จึงมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปสร้างฐาน 22 บาทค่อนข้างสูง หลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 21.40 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 920 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของคนที่ชอบ follow นะจะบอกให้ *ส่วนคนที่ชอบของร้อน “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองหุ้นขยะ GENCO เป็นเครื่องเตือนใจยามเคาะขวาสุดตัว เพราะข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นเรื่องลับลวงพราง จนผู้คนติดหุ้นราคาสูงกันเป็นทิวแถว ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.91 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่า 337 ล้านบาท มันคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่หุ้นขึ้นไปแตะ 2 บาท แล้วรูดลงมากอง 1.40 บาทเลยนะคะ *หากมองภาพดังกล่าวไม่ชัดเจน “โมนิก้า” ขอแนะนำให้บรรดาขาลุยหันมามอง TRUBB เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจของโจ๋วัยมันส์ หลังหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1.65 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไปแค่ 4.40% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท ทั้งที่ช่วงเช้าวิ่งขึ้นไปทำ high 1.81 บาท มันทำให้สัญญาณแท่งเทียนปรากฏเป็นภาพค้อนหัวกลับ คงจะจบรอบอีกตามเคยกระมั้ง *ตรงกันข้ามกับในรายของ LIT เพราะรายนี้พยายามปักหลักสร้างฐานที่บริเวณ 7.50 บาทหลายวัน จนวานนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 8 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่า 255 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ของเขาดีจริงๆ! แถมการขึ้นเที่ยวนี้เป็นการเด้งรับข่าวปล่อยสินเชื่อ ย่อมเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นไปแนวต้าน 8.50 บาท ก่อนจะทะยานขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 9 บาทเจ้าค่ะ *ส่วนเสือซุ่มอย่าง TMB ยังคงเป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่เสมอ ยิ่งกระแสหุ้นต่ำสิบเป็นอะไรที่จุดติดง่ายมากๆ ยิ่งทำให้หุ้นแบงก์รายนี้กลายเป็นทางเลือกขึ้นมาในทันที เมื่อบวกกับท่าทีของแรงซื้อที่เข้ามาเป็นรอบๆ ย่อมเป็นจังหวะที่ต้องตามกระแสให้ทัน ล่าสุดหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 2.48 บาท บวกไป 0.02 บาท ด้วยมูลค่า 120 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการตามไปดู โดยไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้วนะคะ *ป.ล.การกลับเข้ามาซื้อหุ้น 1.20 พันล้านบาทของฝรั่งเที่ยวนี้ ทำให้เดี๊ยนมั่นใจว่า เฟดไม่น่าจะมีอิทธิพลอะไรอีกแล้ว ผสมผสานกับค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าต่อเนื่อง..มันเหมือนเป็นการปลดล็อกความกังวลทุกอย่างเลยนะเนี่ย!..จริงหรือไม่ วันนี้ได้รู้ดำรู้แดงชัวร์ป้าบ..บบ