โยฮัน ครอยฟ์

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคมที่จะถึงนี้ เป็นวันตัดสินว่าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกครั้งสำคัญจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะว่าฝรั่งเศสหรืออาร์เจนตินาจะได้ครองแชมป์สมัยที่สามหรือไม่เท่านั้น แต่จารึกว่าลิโอเนล เมสซี่ควรจะเป็นราชันย์ไร้บัลลังก์เหมือนกับโยฮัน ครอยฟ์ หรือไม่ หรือจะเปิดทางให้กับดาวรุ่งคนใหม่อย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ เป็นตัวแทนแห่งยุคสมัยที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลิโอเนล เมสซี่ คือคนที่จะอยู่ในความทรงจำคงอยู่ต่อไป ในฐานะนักเตะเบอร์หนึ่งแห่งยุคสมัยที่เหนือกว่าคำบรรยายใด ๆ ลิโอเนล เมสซี่ คนหนุ่มชนชั้นกรรมกรจากเมืองเล็ก ๆ ในอาร์เจนตินาที่มีโรคประจำตัวทำให้ตัวเล็กกว่าปกติ ต้องฉีดยาทุกวันต่อเนื่องกันหลายปี ได้ถูกแมวมองของสโมสรบาร์เซโลนา เข้าทำสัญญาเสี่ยงภัยอนาคต นำเขาเข้ามาอยู่ในลา มาเซีย ซึ่งเป็นสถานที่สร้างนักบอล เพื่อเรียนรู้ปรัชญาของสโมสรบาร์เซโลนาใช้หลักการทิกิ ทาก้า อันโด่งดัง ด้วยสูตรตายตัวของเกมการเล่นฟุตบอลในแนวทาง 3-4-3 อันเป็นรากฐานของทีมที่กำหนดไว้โดย โยฮัน ครอยฟ์ เมสซี่ กลายเป็นผู้เล่นที่จากตัวเปลี่ยนแปลงเกม กลายมาเป็นแกนหลักของทีมบาร์เซโลนา จนเกือบจะเป็นนักเตะคนเดียวที่อยู่โดยไม่มีการย้ายทีม จนกระทั่งสโมสรมีปัญหาทางการเงินที่ต้องถูกบังคับให้ปล่อยตัวเขาออกมา และย้ายไปอยู่กับทีมใหม่ ปารีส แซง แฌร์แมงของฝรั่งเศส ก่อนจะใช้เวลา 1 ปีกับการปรับตัวเพื่อกลับมาใหม่ในฐานะกองกลางชั้นยอดที่มีจุดขายจำนวนประตูที่ยิงได้ และการจ่ายบอลอันสุดยอด ตำแหน่งกัปตันทีมอาร์เจนตินา เมสซี่ ทำหน้าที่คล้ายกับมาราโดนาในการแบกทีมในลักษณะ “one for all” มาได้อย่างไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นคว้าถ้วยบอลโลกได้ จนถูกตั้งสมญา “ราชันย์ไร้บัลลังก์” ติดไว้ประจำตัวยาวนานกว่า 3 ครั้งของฟุตบอลโลก เพิ่งจะมีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ที่เมสซี่ในวัย 35 ปี ได้มีโอกาสเป็นกัปตันทีมในลักษณะใหม่นั่นคือ “all-for-one” อย่างน่าเสียวไส้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนามแพ้ต่อซาอุดีอาระเบีย 2-1 ท่ามกลางสถิติที่สร้างขึ้นมาใหม่คือเป็นนักเตะที่รับใช้ชาตินานที่สุด และสถิติอื่น ๆ อีกมากมาย ครั้งนี้เป็นโอกาสที่เมสซี่เข้าใกล้กับการเป็นนักเตะในตำนานที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามาราโดนา และทีมอาร์เจนตินาพร้อมกันไปด้วย หลังจากการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ น่าจะไม่ได้เห็นเมสซี่กับทีมอาร์เจนตินาอีกครั้งตามสูตรของการแข่งขันที่จะมีตัวแทนรุ่นใหม่เข้ามาทดแทนเสมอ เมสซี่จะทำได้ดีเทียบเท่ามาราโดนาหรือไม่ วันที่ตัดสินใจคือวันที่ 18 ธันวาคมนี้เท่านั้น ชัยชนะและความสำเร็จของเมสซี่และอาร์เจนตินา จะต้องหมายถึงการที่ทีมชาติฝรั่งเศสต้องรอไปอีกสมัยหนึ่งเพื่อจะสร้างตำนานบทใหม่ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นแรงบันดาลใจระดับโลกข้ามชาติที่เพียบพร้อม สำหรับนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่เฉกเช่น นักบาสระดับตำนานอย่างคารีม อับดุล จับบาร์ เมจิก จอห์นสัน และไมเคิล จอร์แดนทำไว้กับบาสเกตบอล NBA ในสหรัฐฯ หรือ หลางผิงกับ กาบี้ ทำไว้กับวอลเลย์บอลหญิง และโรเจอร์ เฟเดอเรอร์และ สเตฟฟี่ กราฟ ทำไว้กับเทนนิส หรือไทเกอร์ วูด ทำไว้กับกอล์ฟ ไม่ว่าเขาจะจบฟุตบอลโลกครั้งนี้อย่างเทพคือชนะ หรืออย่างราชันย์ไร้บัลลังก์ แต่สิ่งที่เขาสร้างไว้ด้วยสไตล์การเล่นที่เหนือสามัญมนุษย์ จะอยู่ยั่งยืนกว่าการเป็น “วีรชน 15 นาที” (ของ แอนดี้ วอร์ฮอล) อย่างแน่นอน ตำนาน ที่เมสซี่เล่นในเกม (ทั้งที่มีบอลและไม่มี) ได้สร้างปรากฏการณ์เอาไว้ โดยไม่ต้องใช้คำพูดใด จะกลายเป็นตำนานที่เล่าไม่รู้หน่ายของใครบางคน และที่สำคัญยากที่จะหาใครมาทดแทนเขาได้ในอีกนับร้อยปีเลยทีเดียว