โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์

ถ้าเปรียบคู่เทียบระหว่างบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO กับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ซึ่งเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน มีแม่เป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ถือหุ้นใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ (กฟผ.ถือหุ้น EGCO 25.41% และกฟผ.ถือ RATCH 45%) แต่ทั้งคู่กลับมีความต่างในความเหมือน... สิ่งที่เหมือนกัน...ทั้ง EGCO และ RATCH เกิดมาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าระดับแถวหน้าของตลาดด้วยกันทั้งคู่ แต่สิ่งที่ต่างกัน...RATCH จะมีการลงทุนที่แหกคอก...อุ้ย แหกกรอบมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการไปร่วมกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ของ “เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์” ลงทุนธุรกิจอินฟราสตรัคเจอร์ด้านขนส่งระบบราง ทั้งรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง เท่านั้นไม่พอ ยังไปลงทุนอินฟราสตรัคเจอร์ด้านขนส่งทางบก ร่วมกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF คว้างาน O&M มอเตอร์เวย์สองสาย ส่วนงานสาธารณูปโภคด้านสื่อสาร ก็ร่วมกับบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT รวมทั้งไปลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล ด้วยการซื้อหุ้นบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC สัดส่วน 10% ล่าสุดก็ขยับไปร่วมทุนกับ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว จะเห็นว่า RATCH ไปลงทุนนอกเส้นทางไฟฟ้า มีความหลากหลายมากกว่า... ในขณะที่ EGCO ค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ จะไม่หลุดกรอบจากธุรกิจเดิม เลยทำให้ในช่วง 5–10 ปีที่ผ่านมา สองพี่น้องคู่นี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ด้วยความแตกต่างดังกล่าว ทำให้ EGCO ถูกมองว่าเหมือนยักษ์หลับ..!? แต่จากการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจพลังงาน ทำให้ EGCO จากยักษ์หลับ ก็เริ่มตื่น... เห็นได้ชัดจากการเริ่มขยับตั้งแต่ปลายปี 2562 ด้วยการไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ไต้หวัน กำลังการผลิต 640 เมกะวัตต์ จากนั้นกลางปี 2563 ควงแขนแม่ ในนามบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ RATCH ไปลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิที่เวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 1,320 เมกะวัตต์ ตามมาด้วยการเตรียมพัฒนานิคมอุตสาหกรรม โดยจะใช้พื้นที่ของโรงไฟฟ้าระยองที่หมดอายุแล้วมาพัฒนาเป็นนิคมฯ เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ภายใต้ชื่อ "นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง" บนพื้นที่ 621 ไร่ ขณะที่เมื่อต้นปี 2564 ก็ไปปักหมุดลงทุนที่สหรัฐอเมริกา ด้วยการไปซื้อโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น ลินเดน โคเจน ขนาดกำลังการผลิต 972 เมกะวัตต์ ล่าสุดต่อยอดไปสู่พลังงานหมุนเวียน โดยเข้าซื้อหุ้น 17.46 % ใน เอเพ็กซ์ (Apex) บริษัทผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา โอเค...แม้เส้นทางการลงทุนของ EGCO ยังผูกติดอยู่กับธุรกิจพลังงาน ไม่ได้แหกกรอบเหมือน RATCH ...แต่ก็เห็นการขยับของยักษ์ตนนี้มากขึ้น... ก็น่าจับตาว่า เส้นทางการลงทุนของ EGCO จะยังเป็นไปตามทำนองคลองธรรม หรือจะกล้าแหกกรอบกะเค้าบ้างมั้ยเนี่ย..? งานนี้ต้องไปถาม “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO แล้วล่ะ แต่ถ้าขยับเร็วกว่านี้สักหน่อย...แหกกรอบอีกสักนิด..!? คงทำให้หุ้น EGCO มีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย...ว่าป่ะละ... ...อิ อิ อิ...