โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล

ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา BCH ได้เซ็นสัญญาร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เพื่อรับผู้ป่วยเข้ามารักษาทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) เพียงรายเดียวในประเทศไทย และเป็นเพียง 2 รายในโลก (ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ทั้งนี้ การคัดเลือกดังกล่าว รัฐบาลสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เน้นคัดเลือกโรงพยาบาลที่มีความพร้อม มีความเชี่ยวชาญโรคเฉพาะด้าน ทั้งในเรื่องคุณภาพบุคลากร คุณภาพการรักษา โดยเฉพาะคุณภาพของผลลัพธ์ในการรักษา คาดจะมีการส่งผู้ป่วยเข้ามารักษาทางการแพทย์ หลังปีใหม่ 2568 ถือเป็นปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเสริมในการเติบโตของรายได้ในส่วนของผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งในแต่ละปีทางประเทศมัลดีฟส์มีการใช้จ่ายด้านสุขภาพมากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี สำหรับปัจจุบัน โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล เปิดให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางทุกสาขา ด้วยบริการที่เป็นเลิศและมีคุณภาพมาตรฐานสูงสุด เราถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากคนไทยและชาวต่างชาติด้วยทักษะ ความรู้ ความสามารถของแพทย์ พยาบาล และบุคลากร พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI “เรายังมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับผลการดูแลรักษาอย่างดีที่สุด และโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล เราได้การรับรองมาตรฐานการรักษาระดับสากลจากสถาบัน Joint Commission International (JCI) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานได้รับการยอมรับ และแสดงถึงคุณภาพความปลอดภัยในระดับสากล รวมถึงมีทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ได้รับการฝึกอบรมจากสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ และเราให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแพทย์เป็นอย่างยิ่ง” ศ.ดร.นพ.เฉลิม กล่าว ขณะที่ ผู้ป่วยจากประเทศคูเวต ปัจจุบันทยอยกลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลประเทศคูเวตจะยังไม่ได้คัดเลือกโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการ แต่มั่นใจว่า BCH จะติด 1 ใน 3 โรงพยาบาลที่ได้รับการรองรับการสนับสนุนการรักษาทางการแพทย์ของประเทศคูเวตแน่นอน และจะทำให้เป็นรายได้ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตผู้ป่วยต่างชาติให้เติบโตมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปีนี้รายได้ผู้ป่วยคูเวตที่หายไปมีรายได้กลุ่มผู้ป่วย CLMV เข้ามาชดเชยได้เกือบครอบคลุมทั้งหมด ดังนั้นบริษัทประเมินว่าภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2568 รายได้จากการให้บริการทางการแพทย์จะมีการเติบโตที่ดี และมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากปี 2567 เนื่องจากทุกโรงพยาบาลจะมีการปรับปรุง (รีโนเวต) ทยอยแล้วเสร็จทั้งหมดในช่วงต้นปี 2568 เชื่อว่าจะช่วยให้การบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ขยายตัวดีขึ้น ทั้งผู้ป่วยประกัน ผู้ป่วยทั่วไปเงินสด และผู้ป่วยประกันสังคม ขยายตัวตาม ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าสัดส่วนผู้ป่วยชาวต่างชาติจะขยายตัวค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับปี 2567 ที่คาดสัดส่วนอยู่ที่ 14% (หดตัวจากผู้ป่วยคูเวต) จากปี 2566 อยู่ที่ 18% รวมทั้งผู้ป่วยประกันสังคมได้รับโควตาใหม่เข้ามาเพิ่มเป็นประมาณ 2 ล้านราย จากปัจจุบันมีผู้ป่วยประกันสังคมเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย มากกว่า 1 ล้านราย นอกจากนี้ BCH ได้มีการเซ็นต่อสัญญาโรงพยาบาลประกันสังคม เพื่อรับการจ่ายเงินชดเชยโรคร้ายแรง (AdjRW มากกว่า 2) อัตราคงที่ 12,000 บาทต่อ AdjRW ตลอดทั้งปี 2568 เช่นเดียวกัน ทุกโรงพยาบาลได้มีการต่อสัญญากันทั้งหมดแล้ว