โอเวอร์แวลู

ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนกันยายน 2560 ปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นการปรับตัวขึ้นถึง 51 จุด หรือ 3.15% นับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2560 ส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) ปรับตัวขึ้นแรงตามภาวะตลาด ซึ่งหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงนั้น อาจเกิดจากแรงเก็งกำไร หรืออาจจะปรับขึ้นเนื่องจากพื้นฐานและผลการดำเนินงานมีโอกาสเติบโตสูง นักลงทุนจึงต้องอาศัยเครื่องมือทางการเงินเพื่อวัดความสามารถในการทำกำไร ขณะที่ต้องใช้ค่า P/E และ P/BV เป็นตัววัด ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวเป็นตัวแปรที่บ่งบอกให้รู้ว่าหุ้นจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อ หรือเสี่ยงที่จะปรับตัวลง “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 26 กันยายน 2560 ซึ่งใช้เกณฑ์การคัดเลือกราคาหุ้นที่มีค่า P/E สูงเกิน 40% ขณะที่ค่า P/BV สูงเกิน 2 เท่า เนื่องจากหุ้นที่ซื้อขายบนค่า P/E เกิน 40 เท่า มีโอกาสที่จะเข้าเกณฑ์ Cash Balance ขณะที่ค่า P/BV สูงเกิน 2 เท่า แสดงถึงราคาหุ้นที่สูงกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท หุ้นที่มีค่า P/E สูงเกิน 40 เท่า และ P/BV สูงเกิน 2 เท่า จึงถือเป็นหุ้นที่เสี่ยงปรับตัวลง เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวขึ้นสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง สำหรับหุ้นเสี่ยงอันตรายที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วย SRICHA ,SINGER ,BEC ,VGI ,BTS ,THE ,EKH ,GUNKUL ,MANRIN ,SAMTEL ,BEM ,FN ,PTG ,SCCC ,LPH และTKN (คลิกที่ตารางเพื่อขยายขนาด) อันดับที่ 1 บริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SRICHA ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 26 ก.ย.60 อยู่ที่ 18.70 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.54% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 10.35 ล้านบาท โดยหุ้นซื้อขายบนค่า P/E สูงถึง 217.16 เท่า และมีค่า P/BV สูงถึง 3.37 เท่า ขณะที่กำไรไตรมาส 2/60 ปรับตัวลดลงถึง 434% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อันดับที่ 2 บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 26 ก.ย.60 อยู่ที่ 13.20 บาท ปรับตัวลง 0.10 บาท หรือ 0.75% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 9.82 ล้านบาท โดยหุ้นซื้อขายบนค่า P/E สูงถึง 134.87 เท่า และมีค่า P/BV สูงถึง 2.28 เท่า ขณะที่กำไรไตรมาส 2/60 ปรับตัวลดลงถึง 71% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อันดับที่ 3 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 26 ก.ย.60 อยู่ที่ 16.40 บาท ปรับตัวขึ้น บาท 0.10 หรือ 0.61% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 143.40 ล้านบาท โดยหุ้นซื้อขายบนค่า P/E สูงถึง 60.08 เท่า และมีค่า P/BV สูงถึง 4.71 เท่า ขณะที่กำไรไตรมาส 2/60 ปรับตัวลดลงถึง 75% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อันดับที่ 4 บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 26 ก.ย.60 อยู่ที่ 5.70 บาท ปรับตัวขึ้น 0.15 บาท หรือ 2.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 29.70 ล้านบาท โดยหุ้นซื้อขายบนค่า P/E สูงถึง 55.37 เท่า และมีค่า P/BV สูงถึง 18.77 เท่า ขณะที่กำไรไตรมาส 2/60 ปรับตัวลดลงถึง 44% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อันดับที่ 5 บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 26 ก.ย.60 อยู่ที่ 8.55 บาท ปรับตัวขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.58% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 93.43 ล้านบาท โดยหุ้นซื้อขายบนค่า P/E สูงถึง 54.76 เท่า และมีค่า P/BV สูงถึง 2.39 เท่า ขณะที่กำไรไตรมาส 2/60 ปรับตัวลดลงถึง 26% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อนึ่ง P/BV (Price/Book Value) คือราคาหุ้นล่าสุด / ( ส่วนของผู้ถือหุ้น / จำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด ) โดยทั่วไปแล้ว ค่า P/BV ที่ต่ำนั้น แสดงถึงราคาหุ้นที่ถูก ยิ่งซื้อหุ้นได้ต่ำกว่า BV มากเท่าไหร่ก็หมายความว่าเราสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท โดย BV (Book Value) หรือ มูลค่าตามบัญชี คือมูลค่าส่วนผู้ถือหุ้น หรือมูลค่าของทรัพย์สินที่หักด้วยหนี้สินแล้ว เหลือเป็นมูลค่าของผู้ถือหุ้นเท่าไร *ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน