AAPL

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ ( 10 ก.ย.67) เวลา 0:00 น. Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16 อย่างเป็นทางการ โดยในงานมีทั้งรุ่น iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max โดยรุ่น iPhone 16 มาพร้อมชิป A18 รวมไปถึงการอัปเกรดระบบกล้อง ที่มาพร้อมกับปุ่มแอ็คชั่นที่ช่วยให้เข้าถึงคุณสมบัติที่มีประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีให้เลือกความจุทั้งหมด 128GB, 256GB, และ 512GB เริ่มต้นที่ 29,900 บาท ส่วน iPhone 16 Plus ราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท ขณะที่ ตระกูล Pro มาพร้อมกับชิป A18 Pro รองรับ Apple Intelligence โดยเฉพาะขนาดจอภาพที่ใหญ่ขึ้น การควบคุมกล้องที่ช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอออกมาระดับมืออาชีพ รวมทั้งอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยความจุตั้งแต่ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท และ iPhone 16 Pro Max ราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท ทั้งนี้สอดคล้องกับ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (10 ก.ย.67) ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา Apple เปิดตัว iPhone 16 รุ่นใหม่ และ Huawei เปิดตัว Smartphone พับ 3 ทบ ซึ่งมองเป็นผลดีกับกลุ่มที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7, บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI ขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าหุ้น Apple Inc. หรือ AAPL จะได้รับประโยชน์จากงาน Apple Event It's Glowtime มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ ได้แก่ iPhone 16 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากฟีเจอร์ AI Intelligence โดยมีโปรเซสเซอร์และใช้ชิป A18 ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีและเร็ว โดยเฉพาะประมวลผล AI นอกจากนี้มีการอัปเกรดกล้องใหม่และขยายพื้นที่ ขณะที่ AirPods Max มีการปรับเสียงดีขึ้น และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น รวมถึงมีสีใหม่ และ AirPods 4 มีการออกแบบใหม่ เสียงที่ดีขึ้น ก้านที่สั้นลง และราคาถูกลง ส่วน Apple Watch Ultra 2 ปรับปรุง GPS และรองรับฟีเจอร์ ตัวเรือนใช้เป็นไทเทเนียมเกรด 5 ซึ่งเป็นวัสดุเกรดเดียวกับที่ใช้กับการบินและอวกาศ ทั้งนี้ ภาพรวมสิ่งที่น่าสนใจในงานนี้ คือ 1.) ฟีเจอร์ AI ยังไม่สมบูรณ์ โดยทยอยเปิดตัวในภายหลังและจะเริ่มใช้ได้แค่บางประเทศเท่านั้น, 2.) ราคาสินค้าใกล้เคียงรุ่นเดิมหรือถูกลงในบางสินค้า ซึ่งอาจเป็นจุดดึงดูดลูกค้าได้ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าตลาดไม่ได้เซอร์ไพร์สกับการออกสินค้าใหม่หรืออาจมีการตอบสนองในราคาหุ้นไปแล้วในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่ายังสามารถเก็งกำไรเป็นรอบๆ ได้ ซึ่งตามสถิติช่วง 3-6 เดือน หลังราคามักจะปรับตัวขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งมองเป็นผลจากการับรู้ยอดขายและรายได้สินค้าใหม่เข้าสู่ผลประกอบการ จึงมองลงทุนในช่วงราคาย่อตัวได้ นอกจากนี้แนะมองห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) แบบ Hon hai, Luxshare, TSMC อย่างไรก็ตามแนะนำลงทุนในหุ้น AAPL ให้แนวรับแนวรับ 210-200 USD แนวต้าน 230-240 USD