AAV ERW

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณารายงานผลการศึกษา พร้อมร่างกฎหมายเปิดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนหรือบ่อนพนันถูกกฎหมายในประเทศไทยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของกาสิโน แต่เป็นการเปิด “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” เพื่อเป็นการยกเศรษฐกิจสีเทาขึ้นมาอยู่บนดินทั้งหมด จะได้ควบคุมกำกับดูแล ความปลอดภัย ความเหมาะสมและเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง สำหรับผลการศึกษาเบื้องต้นมีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.พื้นที่เหมาะสมอาจจะเป็นเขต กทม. หรือ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก รวมถึงอาจเป็นพื้นที่ EEC รัศมีไม่เกิน 100 กม. จากสนามบินหลัก, 2.เป็น Entertainment Complex ขนาดใหญ่ 10-30 ล้านตารางเมตร, 3.ลงทุน 8 พันล้านเหรียญฯ หรือแปลงค่าเงินไทยอยู่ที่ 2.80 แสนล้านบาท, 4.ก่อสร้าง 5-10 ปี, 5.ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศประมาณ 20 ล้านคนต่อปี และ 6.เก็บภาษีปีละ 1.70-2.40 พันล้านเหรียญ หรือแปลงค่าเงินไทยอยู่ที่ 5.95-8.40 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ สอดคล้องบทวิเคราะห์ของทางฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มีมุมมองเป็นเชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากโอกาสที่จะมีการเปิด “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” และกาสิโน ซึ่งจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่คาดว่าอาจจะเปิดกาสิโนอย่าง ภูเก็ต และพัทยา ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์จะเป็นกลุ่มสายการบิน ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ให้ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท, บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท ขณะเดียวกันกลุ่มโรงแรมที่เน้นรายได้จากจังหวัดใหญ่ในประเทศ อย่าง บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ราคาเป้าหมาย 5.80 บาท และบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ได้มีการติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กาสิโนถูกกฎหมายของสภา หากเห็นชอบจะเป็นการนำเสนอ “ครม.” รวมถึงได้ติดตามผลการประชุมกฎหมายสมรสเท่าเทียม ในวาระที่ 3 พบว่า ส.ส. มีมติเสียงข้างมาก 400 เสียง ต่อ 10 เสียง และขั้นตอนถัดไป คือ ส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาในวันที่ 1-2 หรือ 9 เม.ย.67 ทำให้ฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินว่าเป็นบวกต่อเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวไทยในระยะถัดไป รวมถึงเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มผู้ให้บริการผู้มีบุตรยาก บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE กลุ่มท่องเที่ยว อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT กลุ่มค้าปลีก อาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP, บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC, บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI