Anti-Commodities

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ (22-26 ส.ค. 2565) จากบทวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน โดยระบุว่า สัปดาห์ “Sideways Down” โดยมีแนวต้าน 1,642-1,650 จุด ส่วนแนวรับ 1,609-1,600 จุด โดยแนะจับตา Global PMI โดยเฉพาะสหรัฐฯ S&P US Manufacturing PMI ตลาดคาด 52.0 จุด เทียบ เดือนก.ค.65 ที่ 52.2 จุด ส่วน Service PMI ตลาดคาด 50.2 จุด เทียบ เดือนก.ค.65 ที่ 47.3 จุด และ 2. อียู S&P EU Manufacturing PMI ตลาดคาด 49.3 จุด เทียบดือนก.ค.65 ที่ 49.8 จุด ส่วน Service PMI ตลาดคาด 50.5 จุด เทียบเดือนก.ค.65 ที่ 51.2 จุด นอกจากนี้วันที่ 23 ส.ค.65 ติดตามติดตามยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ค. 65 ตลาดคาด 5.8 แสนหลัง ลดลง 1.7% เทียบเดือนก่อนหน้า และวันที่ 24 ส.ค. ติดตตามดัชนีตัวเลขยอดจองบ้านเดือน ก.ค. 65 คาดลดลง 2.5% เทียบเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกันวันที่ 24 ส.ค. ติดตามคาดการณ์ยอดขายสินค้าคงทนเดือน ก.ค.65 ตลาดคาดโต 0.6% เทียบเดือนก่อนหน้าชะลอจากเดือนมิ.ย.65 โต 2.0% เทียบเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้วันที่ 25 ส.ค. ติดตามตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรอบ 13 ส.ค.65 ยังไม่มีคาดการณ์ เทียบ prev. ที่ 1.43 ล้านตำแหน่ง และวันที่ 26 ส.ค.ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นบริโภค U of Michigan เดือนก.ค.65 ตลาดคาดอยู่ที่ 55.1 ทรงตัวเทียบเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ติดตาม Jackson Hole Meeting วันที่ 26-28 ส.ค. โดยติดตามถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางต่างๆโดยเฉพาะประธาน Fed ในส่วนแนวทางกำหนดนโยบายการเงินเมื่อเศรษฐกิจเริ่มถดถอย ด้านการเมืองในประเทศวันที่ 24 ส.ค. จะครบกำหนดที่ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชาดำรงตำแหน่งนายกฯ นับจากโปรดเกล้าฯ ครั้งแรก 24 ส.ค.2557 ครบ 8 ปีแต่การตีความที่ยังมีความไม่ชัดเจนอยู่บ้าง ทำให้มีความเสี่ยงด้านเสถียรภาพรัฐบาล ก่อนที่จะมีผลวินิจฉัยของศาล นอกจากนี้ 24 ส.ค. ติดตามรายงานตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค.65 ตลาดคาดโต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนชะลอลงจากเดือน มิ.ย.65 ที่โต 11.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนนำเข้าโต 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบเดือน มิ.ย.65 โต 24.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน กลยุทธ์การลงทุน : สัปดาห์นี้คาด SET Sideways Down คาดตลาดให้น้ำหนักไปที่ภาพเศรษฐกิจผ่านรายงาน PMI เบื้องต้นของสหรัฐฯเดือน ส.ค.65 ที่ส่วนใหญ่จะออกมาชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.65 ขณะที่อีกส่วนยังคาดจะเป็นการรอความชัดเจนนโยบายการเงินในการประชุม Jackson Hole โดยเฉพาะแนวทางกำหนดนโยบายการเงินในช่วงเศรษฐกิจถดถอย หุ้นที่เชื่อมีโอกาส Outperform เน้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์เงินเฟ้อผ่านพีค และทนทานภาพเศรษฐกิจโลกถดถอยที่มีน้ำหนักตลาด สัปดาห์หน้า 1.กลุ่ม Consumer และ Defensive ที่ทนทานเศรษฐกิจถดถอย (ADVANC, TIDLOR, INTUCH, DTAC, CPALL, MAKRO, CRC,HMPRO, ILM, KTC, BDMS) ,2. Anti-Commodities ( SCGP, CBG, SCC, TOA, EPG,GULF) และ3. กลุ่ม High Growth/ Digital Tech อิงความต้องการในประเทศ (SNNP, JMT,SINGER, CHAYO, BE8, BBIK, IIG, SAPPE) โดยหุ้นเด่นสัปดาห์นี้: แนะนำ CPALL, BDMS, SAPPE โดย CPALL ราคาเป้าหมาย 70 บาท ลุ้น Upside กำไรหนุนจากราคาน้ำมันแกว่งลง ท่องเที่ยวฟื้นแรง ส่วน BDMS ราคาเป้าหมาย 33.3 บาท คาดหวังนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางฟื้นสูงต่อ+เข้าสู่ฤดูกาล และ SAPPE ราคาเป้าหมาย 43 บาท ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้นและคาดกำไรไตรมาส 3/65 New High ต่อเนื่อง