BANOU

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาหัวมันสำปะหลังสดภายในประเทศตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ไม่สะท้อนกลไกตลาดโลกที่ราคาอยู่ในช่วงขาขึ้น จึงขอความร่วมมือภาคเอกชนประกาศราคารับซื้อหัวมันสำปะหลังแนะนำ พร้อมกันนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศและกรมการค้าภายในเข้ามากำกับดูแลภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยวันนี้ 3 สมาคมการค้ามันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมใจกันประกาศราคารับซื้อหัวมันสดเชื้อแป้ง 25% ไม่ต่ำกว่า 2.40 บาท/ก.ก. และจะปรับเพิ่มเป็นขั้นบันไดให้มีราคาไม่ต่ำกว่า 2.50 บาท/ก.ก. เพื่อให้เกษตรกรมันสำปะหลังได้รับราคาที่เป็นธรรมตามกลไกตลาดและลดภาระของรัฐ หากสมาชิกสมาคมรายใดไม่ให้ความร่วมมือ แต่ละสมาคมฯ จะพิจารณาขับออกจากการเป็นสมาชิกสมาคม ซึ่งท้ายสุดจะส่งผลให้ผู้ส่งออกรายนั้นๆ พ้นสภาพการเป็นผู้ส่งออกตามกฎหมายโดยปริยาย นอกจากนี้ยังติดตามผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมทำลายตลาดอย่างใกล้ชิด และบังคับใช้กฎหมายในกำกับดูแลของแต่ละหน่วยงานทันทีเมื่อพบการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากกลไกภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง จะแก้ปัญหาการขายตัดราคาที่ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่อุปทานในระยะยาวได้ “สาเหตุราคาหัวมันสดในประเทศตกต่ำ ส่วนหนึ่งมาจากผู้ส่งออกมันเส้นไปส่งออกตัดราคากันเอง จนต้องมารับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกรในราคาต่ำ ที่ผ่านมา กรมได้เชิญผู้ส่งออก 3 รายใหญ่ ที่ขายส่งออกตัดราคากันเอง มาคุยแล้ว และได้ขอความร่วมมือไม่ให้ตัดราคากันอีก ซึ่งทั้ง 3 รายรับปากจะให้ความร่วมมือเต็มที่ ถ้าซื้อขายตามกลไกตลาด ราคาหัวมันสดในประเทศจะเพิ่มขึ้นได้แน่ เพราะจีนมีความต้องการมันเส้นเพื่อทำแอลกอฮอล์สูงมาก” ด้านนายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า การที่ผู้ส่งออกขายส่งออกในราคาต่ำ เพระที่ผ่านมา ไม่รู้ว่า ความต้องการมันเส้นของจีนจะเพิ่มขึ้นมาก ล่าสุด ราคามันเส้นส่งออกอยู่ที่ตันละ 260-270 เหรียญฯ จากก่อนหน้านี้ขายกันที่ตันละ 240 เหรียญฯ ส่วนแอลกอฮอล์ในจีนเพิ่มขึ้นเป็นตันละ 7,100 หยวน จาก 5,600 หยวน แต่ 3 สมาคมจะประกาศราคาแนะนำขายที่ไม่ต่ำกว่าตันละ 250 เหรียญฯ เท่ากับต้องซื้อหัวมันสดที่กก.ละ 2.40 บาท และจะขยับขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่า ราคาน่าจะขยับขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 3 บาทได้ เพราะปีนี้ความต้องการใช้มันเส้นของจีนเพื่อทำแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นมาก รวมถึงความต้องการใช้ในไทยก็เพิ่มขึ้นด้วย มาอยู่ที่ 40 ล้านตัน แต่ไทยผลิตได้เพียง 28 ล้านตันเท่านั้น