BCPG และ GLOBAL

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศผลการหารือกับพรรคก้าวไกล และต่อสายคุยกับอีก 6 พรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดิมในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อแจ้งว่า พรรคเพื่อไทย ขอเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล เนื่องจากติดเงื่อนไขเรื่องการแก้ไข ม.112 ที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคไม่สำเร็จ สำหรับพรรคเพื่อไทยจะเจรจากับพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งประกาศนโยบายสำคัญของรัฐบาลใหม่ คือการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเกิดความยุ่งยาก ด้วยการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และทำประชามติให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งหลังจากมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว พรรคเพื่อไทยจะคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการจัดการเลือกตั้งใหม่ทันที ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะได้ข้อสรุปในวันพรุ่งนี้ ด้าน บล.พาย ระบุว่า ได้มีการหาหุ้นรับรัฐบาลใหม่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐ โดยนโยบายที่คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ภายใต้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำที่ทำได้ทันที และเป็นผลบวกต่อการบริโภคภายในประเทศรวมถึงการท่องเที่ยว โดยตามนโยบายหลักพรรคเพื่อไทย 1. เงินดิจิตอล 10,000 บาท 2.ทุกครอบครับมีรายได้ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นบาท 3. เกษตรรายได้เพิ่ม 3 หมื่นบาทต่อไร่ต่อปี 4. เสริมสร้างการท่องเที่ยวสนับสนุนประเทศไทยให้เป็น Festival Hub of Asia, Regional Transportation Hub , Wellness Destination Hub 5. มาตรการแก้หนี้ครัวเรือง 6. มาตรการลดค่าไฟฟ้า 7. สนับสนุนพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังไม่มีรายละเอียดในแต่ละโครงการ และบางโครงการอาจทำไม่ได้ เช่นเงินดิจิตอล แต่เชื่อว่าหลังจากจัดตั้งรัฐบาล อาจจะเห็นมาตรการเร่งด่วนเกี่ยวกับการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ อย่างไรก็ตามกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ เช่น ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, โรงพยาบาล, ธนาคาร และพลังงานทางเลือก ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ เช่น สินเชื่อรายย่อย และโรงไฟฟ้า ขณะที่หุ้นที่แนะนำ ได้แก่ BBL, KTB, TISCO, CPALL, CENTEL, HMPRO, AOT, BJC, CPN, BCPG และ GLOBAL