BEM

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM มีราคาก่อนเปิดตลาด (Pre Open) 5 นาที อยู่ที่ 5.50 บาท โดยจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายก่อนเปิดตลาดประมาณ 124 ล้านหุ้น ด้านฝั่งซื้อ (Bid) ประมาณ 37 ล้านหุ้น ส่วนฝั่งขาย (Offer) ประมาณ 18 ล้านหุ้น ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำซื้อ BEM มีราคาเหมาะสมที่ 6.50 บ. ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้ราคาพื้นฐานของ BEM อยู่ที่ 5.55 บาท และจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะราคาหุ้นได้ทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาตั้งแต่มีการประกาศควบรวมบริษัทแล้ว โดยราคาพื้นฐานดังกล่าวบล.ฟิลลิปฯ ประเมินจากปัจจัยบวกที่เห็นชัดเจน 2 ประเด็น คือ 1.การเปิดให้บริการทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ในเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งจะมีกำไรทันทีหลังเปิดให้บริการ 2การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ ที่ BEM รับจ้างเดินรถโดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จ่ายค่าจ้างเป็นอัตราคงที่ปีละประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนนี้อาจไม่ได้สร้างผลบวกให้ BEM มากนัก แต่การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะช่วยส่งต่อผู้โดยสารเข้าสู่รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล และจะทำให้สายทางเดิมนี้มีกำไรในทันที จากที่เคยขาดทุนมาโดยตลอด และจาก 2 ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ผลประกอบการปี 2559 มีกำไรสุทธิ 2,617 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 40% จากปีก่อน ส่วนบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำซื้อ BEM ในราคาเหมาะสม 6.50 บาท โดยเห็นว่า BEM เป็นหนึ่งในบริษัทที่สมบูรณ์แบบและพร้อมขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจคมนาคมไทย ทั้งในเรื่องโครงสร้างรายได้ที่มั่นคงจากสัมปทานในมือมากถึง 7 ฉบับ ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นภายหลังการควบรวม และโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ที่จะสนับสนุนธุรกิจทั้งในแง่การก่อสร้าง คือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ที่ถือหุ้น 8% ในแง่การเงิน คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ถือหุ้น 2% และธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ถือหุ้น 7%