BMP

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ระบุว่า บริษัท บีเอ็มพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ BMP ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)version แรกเมื่อวันที่ 10 ก.ค.58 เนื่องจากบริษัทต้องการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO)จำนวน 270 ล้านหุ้น โดยบริษัทจะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) และมี บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อนำเงินไปใช้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า และโครงการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล รวมทั้งชำระคืนเงินกู้ยืม และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ BMP เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 9.5 เมกะวัตต์ ใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิงหลัก ตั้งอยู่ที่ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท และมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์ ตั้งอยู่ใน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ขณะนี่ได้ผู้รับเหมาด้านต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์(COD)ภายในเดือน ธ.ค.58 อีกทั้งบริษัทยังลงทุนในบริษัทอื่นที่ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุน เวียน รวมทั้งบริษัทอื่นที่ผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล ได้แก่ บริษัท ไบโอ ฟลูเอล ซัพพลายส์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล และเข้าลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิตผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล, บริษัท บีเอ็มพี โซลาร์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินธุรกิจ ส่วนบริษัท เบตง กรีน เพาเวอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวล ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้าขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 7.5 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ใน อ.เบตง จ.ยะลา ใช้เศษไม้ยางพาราเป็นเชื้อเพลิงหลัก, บริษัท เบตง ไบโอฟลูเอล จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล ตั้งอยู่ใน อ.เบตง จ.ยะลา ใช้เศษไม้กิ่งไม้ยางพารา ขี้เลื่อย เป็นวัตถุดิบ โดยโครงการอยู่ระหว่างการเตรียมการ จะเริ่มดำเนินการภายหลังเริ่มโรงไฟฟ้าของบริษัท เบตง กรีน เพาเวอร์ แล้ว รวมถึง บริษัท ชุมพร ไบโอฟลูเอล จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล โดยใช้ต้นปาล์ม และผลพลอยได้จากต้นปาล์มเป็นวัตถุดิบ ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดกาที่ตั้งใหม่ที่เหมาะสม นอกจากนั้น บริษัทยังมีการลงทุนในบริษัท เอฟ เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศญี่ปุ่น โดยถือหุ้น 5.75% มีวัตถุประสงค์ในการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 57 มีกำไรสุทธิ 20.51 ล้านบาท จากปี 56 ที่มีกำไร 56.81 ล้านบาท ส่วนงวดไตรมาส 1/58 มีสินทรัพย์รวม 632.99 ล้านบาท หนี้สินรวม 161.14 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 471.85 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 41.64 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 6.63 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ส.ค.57 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท เป็นทุนที่เรียกชำระแล้วทั้งหมด แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ต่อมาล่าสุด 3 มิ.ย.58 บริษัทฯได้เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 0.50 บาท และได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชน โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้แล้ว บริษัทจะมีทุนเรียกชำระแล้ว 1,070 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 3 มิ.ย.58 ประกอบด้วย นายชำนิ จันทร์ฉาย ถือหุ้น 305,000,020 หุ้นหรือคิดเป็น 38.13% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 28.50% รองลงมาเป็นกลุ่มตระกูลชลวณิช ถือหุ้น 296,627,980 หุ้นหรือคิดเป็น 37.08% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 27.73% และกลุ่มตระกูลเอี่ยมเจริญยิ่ง ถือหุ้น 60 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 7.50% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 12.93% ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี และหักสำรองตามกฎหมายของงบเฉพาะกิจการ