Ctrip

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ช่วงหยุดยาวเนื่องในวันชาติจีนวันที่ (1 ต.ค.66) ที่ผสานรวมกับวันหยุดเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์วันที่ (29 ก.ย.) กลายเป็น "สัปดาห์ทอง" ระยะ 8 วัน (29 ก.ย.- 6 ต.ค.) ที่ประชาชนชาวจีนจำนวนไม่น้อยพากันจับจองการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย ซีทริป (Ctrip) บริษัทผู้ให้บริการจองบัตรโดยสารชั้นนำ เปิดเผยว่า ปริมาณการจองผลิตภัณฑ์การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงไม่นานนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าเมื่อเทียบปีต่อปี ขณะความต้องการเดินทางช่วงหยุดยาวเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีนยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นักท่องเที่ยวชาวจีนในฐานะแหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความสำคัญของไทย ได้ครองส่วนแบ่งขนาดใหญ่ในตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 62 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเยือนไทยมากกว่า 10 ล้านคน ครองส่วนแบ่งหนึ่งในสี่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในไทย ทั้งนี้ ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากทางการจีนกลับมาอนุญาตการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากใช้เวลาเดินทางไม่นาน ขอวีซ่าได้สะดวกรวดเร็ว และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งจำนวนชาวจีนที่ยื่นขอวีซ่าเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ของไทย ณ นครหนานหนิง เผยว่าปริมาณการพิจารณาวีซ่าในเดือน ม.ค. ปีนี้เพิ่มขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความนิยมท่องเที่ยวไทยยังคงต่อเนื่องจนถึงฤดูร้อนของจีน โดยข้อมูลจาก ยูมีทริป (Umetrip) ระบุว่ากรุงเทพฯ ครองอันดับ 3 ของจุดหมายท่องเที่ยวต่างประเทศยอดนิยม 10 อันดับแรกในฤดูร้อนช่วงวันที่ (1 ก.ค.-22 ส.ค.) ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ไทยเริ่มต้นนโยบายฟรีวีซ่าระยะ 5 เดือน แก่นักท่องเที่ยวจากบางประเทศ รวมถึงจีน โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ได้ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิด้วย กัวตง ชาวเมืองเป่ยไห่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ผู้วางแผนท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในช่วงหยุดยาวเนื่องในวันชาติจีนปีนี้ มองว่านโยบายวีซ่าเป็นเหมือน “บังเหียน” ควบคุมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวขาเข้าและขาออก ชาวจีนคนนี้เสริมว่านโยบายฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนไม่เพียงเกื้อหนุนการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยว แต่ยังประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วน ช่วยให้ชาวจีนอยากเดินทางไปเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นในช่วงหยุดยาวที่จะถึงนี้ หวังเซิน ผู้ดูแลเที่ยวบินเช่าเหมาลำประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ตื่นเต้นกับนโยบายฟรีวีซ่านี้ และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเยือนไทยจะเพิ่มขึ้นราว 30% โดยข้อมูลการจองแพ็กเกจการท่องเที่ยวในปัจจุบันบ่งชี้ว่าช่วงหยุดยาวเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีนปีนี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนชื่นชอบแพ็กเกจเส้นทาง “กรุงเทพฯ+พัทยา+เกาะเสม็ด” เป็นจำนวนไม่น้อย ไล่จิ้นเผิง ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวต่างประเทศในจีนและธุรกิจเอเจนซีท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ มาหลายปี กล่าวว่า ยุคก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ บริษัทของเขารับรองนักท่องเที่ยวเกือบ 1.5 หมื่นคน/เดือน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ช่วงก่อนมีเที่ยวบินน้อยมาก ทำให้คนไม่ค่อยอยากมาเที่ยวไทย แต่นโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาลไทยจะช่วยขับเคลื่อนการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงหยุดยาวที่ใกล้มาถึงนี้ ขณะเดียวกัน ผู้คนแวดวงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างตื่นตัวหลังจากมีนโยบายฟรีวีซ่า เอเจนเซีท่องเที่ยวและธุรกิจบริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำในจีนบางส่วนเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำอีกครั้ง สำหรับ ข้อมูลจาก ยูมีทริป ระบุว่าสายการบินในจีนให้บริการเที่ยวบินระหว่างจีน-ไทยมากกว่า 6.4 พันเที่ยวในฤดูร้อนช่วงวันที่ (1 ก.ค.-22 ส.ค.) ซึ่งฟื้นตัวอยู่ที่ราว 54% ของช่วงเดียวกันในปี 62 โดยค่าบัตรโดยสารเที่ยวบินไป-กลับ เฉลี่ยอยู่ที่ราว 1.8 พันหยวน (ประมาณ 9 พันบาท) เหลี่ยวเย่จิ่ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของสายการบิน ไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ส สาขากว่างซี กล่าวว่า ช่วงนี้ความต้องการเที่ยวบินจากหนานหนิงไปยังกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น ขณะปัจจุบันความจุของเที่ยวบินจากหนานหนิงสู่กรุงเทพฯ อยู่ที่ 80% ด้าน เหลยเสี่ยวหัว นักวิจัยประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา สังกัดสถาบันสังคมศาสตร์กว่างซี เชื่อว่าความกระตือรือร้นและจำนวนชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมากในช่วงหยุดยาวนี้ อีกทั้ง รัฐบาลไทยชุดใหม่ยังเร่งดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจหลากหลายรายการ ซึ่งรวมถึงนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ดึงดูดความสนใจจากชาวจีน โดยไทยยังคงเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งมีนัยสำคัญต่อการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างสองประเทศและมิตรภาพ "จีนไทยพี่น้องกัน"