DDC

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ระบุว่า จากประเด็นข่าวว่ารัฐบาลใหม่อาจไม่ดำเนินการโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ แต่อาจโยกเงินงบประมาณนำไปใช้ลงในโครงการลงทุนระดับจังหวัด ระดับชุมชน เช่น โครงการกองทุนหมู่บ้าน โดยฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นบวก เนื่องจากหากไม่มีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงเชิงลบราว 0.20% ต่อตัวเลขประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP growth) ในปี 67 ที่ 2.60% อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงเชิงลบส่วนนี้จะถูกชดเชยด้วยเม็ดเงินที่ถูกนำไปใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าแทน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถทำให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากกว่าการโอนเงินดิจิทัลวอล แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของช่วงเวลาที่จะเริ่มใช้โครงการนี้ ดังนั้นโดยรวมเชื่อว่าอาจพอแค่ส่งผลบวกในเชิงช่วยชดเชยการหายไปของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งนี้กองทุนหมู่บ้านเป็นโครงการของภาครัฐที่มุ่งเน้นช่วยเหลือทางการเงินแก่ชุมชนในระดับหมู่บ้านโดยเฉพาะชุมชนที่มีรายได้น้อย โดยโครงการนี้จะส่งเสริมการจ้างงานและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับประชาชนในระดับฐานราก พร้อมกันนี้ มองกลุ่มที่คาดการณ์ว่าจะได้ประโยชน์ เช่น 1.ประชาชนในระดับฐานรากที่มีรายได้น้อย โดยสามารถกู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อไปพัฒนาอาชีพ ลงทุนหรือเพื่อการใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับชุมชน (Commerce ได้แก่ CPALL, CPAXT, CRC) อีกทั้งธุรกิจการเงินและสินเชื่อรายย่อยอาจได้อานิสงค์บวกด้วยเนื่องจากอาจกระตุ้นความต้องการสินเชื่อเพิ่มเติมจากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่ให้บริการในพื้นที่นั้น (Finance ได้แก่ MTC, SAK) 2.ผู้ประกอบการขนาดเล็ก โดยสามารถใช้เงินกู้จากกองทุนเพื่อขยายธุรกิจหรือปรับปรุงธุรกิจของตน เช่น เกษตรกรสามารถใช้เงินกู้จากกองทุนหมู่บ้านในการลงทุนในอุปกรณ์การเกษตร ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ หรือปรับปรุงฟาร์ม ซึ่งทำให้ธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมได้รับประโยชน์ (Finance ได้แก่ SAK) 3.ชุมชนใช้กองทุนหมู่บ้านในการพัฒนาโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน เช่น พัฒนาสาธารณูปโภคเพื่อส่งผลให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดีขึ้น ดังนั้นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้างคาดว่าจะได้รับประโยชน์ (Commerce + Conmat ได้แก่ GLOBAL, DOHOME, HMPRO และ SCC, DDC)