Digital Wallet

นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอ็กซ์ จำกัด เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (28 ส.ค.66) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีทิศทางบวก เนื่องมาจากการที่ตลาดหุ้นจีนออกมาตรการกระตุ้นในส่วนของการลดภาษีการซื้อขายหุ้น น่าจะทำให้แนวต้านขึ้นมาที่ 1,570 จุด ด้านปัจจัยภายในเรื่องความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งสัปดาห์นี้ต้องติดตามผลการจัดตั้ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีรายชื่อออกมาอย่างเป็นทางการ และช่วงเดือนหน้าที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามาทำงาน ขณะที่ ฝั่งต่างประเทศในวันศุกร์ที่ผ่านมาแม้แถลงการณ์ของ นายเจอโรม พาวเวล จะกล่าวว่ายังจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอยู่ แต่ในวันเดียวกันตลาดสหรัฐฯ ก็ยังคงสามารถปรับตัวขึ้นได้ ราคาทองก็ปรับตัวขึ้นได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นตลาดอาจจะมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจจะเหลืออีกไม่มาก และในสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ถ้าออกมาเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าคาดก็จะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าและหนุนเงินบาทให้แข็งค่า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ทิศทางตลาดหุ้นไทยเป็นไปในทางบวก ทั้งนี้ แนวต้านถัดไปจาก 1,570 จุด มองว่า 1,600 จุด ก็มีโอกาสได้เห็นด้านแนวรับอยู่ที่ 1,540 จุด ก็เป็นจุดที่รองรับได้ ภาพรวมโมเมนตัม ยังปรับตัวขึ้นได้อยู่ โดยหุ้นที่จะดันดัชนีหากอิงจากนโยบายของ ดิจิทัล วอลเล็ต (Digital Wallet) ของเพื่อไทยจะเป็นหุ้น กลุ่มค้าปลีกอาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP, มองว่าเป็นตัวเลือกที่ดี รวมไปถึง กลุ่มแบงก์ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ด้านกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ด้านกลุ่มโรงกลั่น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กลุ่มไฟฟ้าก็สามารถเล่นได้แต่แนะนำให้มองไว้เป็นกลุ่มรอง