Dusit Central Park

นางสาวภวิดา ม้าชัย นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน “Opportunity Day” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 67 ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 12,792.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.56% จากงวดเดียวของปีก่อน 12,721.87 ล้านบาท และมีกำไรอยู่ที่ 4,125.68 ล้านบาท ลดลง 0.86% ทรงตัวจากงวดเดียวของปีก่อน 4,161.64 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการ รวมถึงรายได้จากธุรกิจโรงแรมยังคงเติบโตได้มากกว่า 10% จากปีก่อน แต่ในส่วนของยอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลง จากโครงการคอนโดมิเนียมที่โอนกรรมสิทธิ์ครบและผลกระทบทางบัญชีฉากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 ขณะที่สิ้นไตรมาส 3/67 บริษัทฯ มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารทั้งหมด 42 แห่ง โดยอยู่ในประเทศไทย 41 แห่ง และอีก 1 แห่งที่ประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ในส่วนของ Community Malls จากไตรมาส 2/67 มีทั้งหมด 17 แห่ง และในไตรมาส 3/67 เหลือ 15 แห่ง เนื่องจากไม่ต่อสัญญาเช่าที่ดิน 2 แห่ง ส่วนธุรกิจโรงแรมอัตราการเช่าอยู่ที่ 71% ทั้งนี้มีสาขาที่เปิดไปแล้ว 1 แห่ง (ฮิลตัน การ์เดน ระยอง) ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้พอร์ตธุรกิจโรงแรม 10 แห่ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีแผนเปิดธุรกิจอาคารและสำนักงานเพิ่ม อัตราการเช่าอยู่ที่ 85% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ตอนนี้มีทั้งหมดเท่าเดิม 10 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นางสาวภวิดา กล่าวต่อว่า แนวโน้มไตรมาส 4/67 ธุรกิจที่พักอาศัย วางแผนเปิด 10 โครงการ หลังจาก 9 เดือนแรกที่ผ่านมา เปิดไปแล้ว 6 โครงการ รวมถึงในไตรมาส 3/67 ที่ผ่านมา เปิดไป 2 ตึกคอนโดมิเนียม อาทิ เอสเซ็นท์ หาดใหญ่ ตึกที่ 2 ซึ่งเปิดในเดือนยายน โดยมียอดจองมากกว่า 20% และเอสเซ็นท์ ภูเก็ต ตึกที่ 2 ซึ่งเปิดในเดือนยายน โดยมียอดจองมากกว่า 40% และจะเหลือ 4 โครงการ ที่จะเปิดในไตรมาสที่ 4 นี้ และปัจจุบันมีโครงการในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 5,700 ล้านบาท ซึ่ง 20% จะรับรู้เข้ามาได้ในไตรมาส 4/67 อีกทั้งโครงการใหญ่ร่วมกับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT (DUSIT CENTRAL PARK) โดยจะมีศูนย์การค้า 130,000 ตร.ม. พื้นที่ NLA อาคารสำนักงานประมาณ 60,000 ตร.ม. โรงแรม 257 ห้อง และอาคารที่อยู่อาศัย 550 ยูนิต ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 46,000 ล้านบาท ปี 2567 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2568 เป็นต้นไป “บริษัทฯ ยังคงผลักดันแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยตั้งเป้าหมายทางธุรกิจในระยะ 5 ปี ที่จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ย (CAGR) ประมาณร้อยละ 10 ในระหว่างปี 2567 - 2571 โดยหลังจากการเปิดโครงการที่พักอาศัยและโรงแรมในปี 2566 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการรูปแบบผสมที่ให้ศูนย์การค้าเป็นศูนย์กลาง ทำให้โครงการมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นโดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นความเป็น "Center of Life" ที่จะผสานจุดเด่นของศูนย์การค้าเข้ากับธุรกิจอื่นๆ ในโครงการ ร่วมกับการปรับปรุงศูนย์การค้า การริเริ่มนําเสนอการบริการรูปแบบใหม่ๆ อาทิ โครงการเดือนตุลาคม ปี 2568 เปิด The First Complete Mixed-Use Development in Krabi และที่พักอาศัยในบริเวณเดียวกัน ด้วยเงินลงทุน 2,300 ล้านบาท และพื้นที่ให้เช่าประมาณ 20,000 ตารางเมตร” นางสาวภวิดา กล่าวทิ้งท้าย COMPANY SNAPSHOT