e-tax invoice

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(5 มิ.ย.67) ว่า กลุ่มท่องเที่ยว จากกรณีคลังออกมาตรการกระตุ้นเที่ยวในประเทศช่วง Low Season โดย 1) นิติบุคคล กระตุ้นสัมมนาในประเทศสามารถหักรายจ่ายได้ 2.0 เท่า ในเมืองรอง และ 1.5 เท่า ในเมืองหลัก ส่วน 2) บุคคลธรรมดาหักค่าไกด์-โรงแรมได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท มีผลย้อนหลัง 1 พ.ค.-30 พ.ย.67 โดยทั้ง 2 มาตรการ ต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวล รัษฎากร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ทั้งนี้ DAOL มองเป็นบวกเล็กน้อยต่อมาตรการดังกล่าว โดยจากการสอบถาม บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL และ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW พบว่า มีเพียง CENTEL ที่มี e-Tax Invoice & e-Receipt ซึ่งทำให้คาดว่า CENTEL แนะนำถือเป้า 44.00 บาท จะได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะมีสัดส่วนรายได้จาก MICE(ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประชุม อบรม สัมมนา ขององค์กร) มากที่สุดในกลุ่มราว 5-10% ของรายได้รวมของโรงแรม (หรือราว 2-4% ของรายได้รวมทั้งหมด) ซึ่งจะช่วยให้มีรายได้ ในส่วนของ MICE เพิ่มขึ้นได้ ขณะที่ ERW อยู่ระหว่างการศึกษาในการลงทุนทำระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt อยู่ ส่วน MINT คาดว่ามี e-Tax Invoice & e-Receipt ซึ่งจะช่วยในส่วนของ MICE ได้แต่ไม่มาก เพราะรายได้ หลักส่วนใหญ่มาจากยุโรป (สัดส่วนรายได้ 60%) ขณะที่รายได้จากโรงแรมในเมืองรอง CENTEL,บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ไม่ได้ผลบวกเพราะไม่มีโรงแรมในจังหวัด เมืองรองเลย ส่วนบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW มีโรงแรมในเมืองรองเยอะจาก Hop Inn แต่ยังไม่มี ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt จึงทำให้ไม่ได้ประโยชน์จากทั้ง 2 มาตรการ ขณะที่มองว่าบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV แนะนำซื้อเป้า 3.20 บาทจะได้ประโยชน์จากเส้นทางบินใน ประเทศครอบคลุมทั้งเมืองหลักและเมืองรอง โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียมี market share เส้นทางบินในประเทศสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ราว 40% ทั้งนี้กลุ่มท่องเที่ยวเรายังคงน้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” ชอบ MINT แนะนำซื้อราคาเป้า 40.00 บาท รองลงมาเป็น ERW ราคาเป้า 5.80 บาท