EASON

"เพชรรัตน์ เอกแสงกุล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือEASON เปิดเผยว่า ในปี 2558บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ใกล้เคียงกับปี 2556 ที่มีรายได้รวม 587.87 ล้านบาท แม้ว่าในปี 2557 บริษัทจะมีรายได้เพียง 472.96 บาท โดยการที่บริษัทจะกลับไปมีรายได้ใกล้เคียงกับช่วงปี 2556 จะมาจากการที่ปี 2558เป็นปีที่อุตสาหกรรมยานยนต์และธุรกิจของบริษัทกลับมาเป็นปกติ หลังจากชะลอตัวไปตั้งแต่ช่วง 2557ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีเข้ามา สำหรับทิศทางผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1/58 มองว่าน่าจะดี เพราะในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาเห็นสัญญาณคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีเข้ามา แม้ส่วนใหญ่จะเป็นงานเร่งด่วน แต่ก็ถือว่าลูกค้าเริ่มกลับมา ส่วนหนึ่งอาจเพราะว่าในปี 2557 ลูกค้าได้ชะลอการลงทุน เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์มีทิศทางที่ไม่ดี หลังจากเติบโตขึ้นไปมากในช่วงปีที่มีนโยบายรถคันแรก ซึ่งเป็นตัวเร่งให้ยานยนต์เติบโต โดยบริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2558จะดีกว่าปี 2557 และตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2558จะต้องกลับไปใกล้เคียงกับช่วงปี 2556 ได้ ซึ่งการเติบโตของบริษัทจะมาจาก ทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันแม้รายได้หลักของบริษัทจะมาจากฐานลูกค้าในประเทศเป็นหลักประมาณ 90% ของรายได้ทั้งหมด แต่บริษัทก็ได้เริ่มรุกออกไปยังต่างประเทศแล้ว ซึ่งน่าจะเห็นผลได้ในช่วงปี 2558 “ปี 2558บริษัทตั้งเป้าว่าจะกลับไปมีผลประกอบการที่ใกล้เคียงกับช่วงปี 2556 ซึ่งเป็นผลประกอบการระดับปกติของบริษัท โดยมองปี 2558อุตสาหกรรมยานยนต์และธุรกิจของบริษัทกลับมาเป็นปกติ อีกทั้งการรุกตลาดต่างประเทศของบริษัทจะเริ่มเห็นผลได้ในช่วงปีนี้” ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ในส่วนของธุรกิจสีพ่นรถจักรยานยนต์นั้น บริษัทได้มีการเข้าไปลงทุนจัดตั้งโรงงานในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งในประเทศเวียดนามจะเริ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทตั้งแต่ปี 2557ที่ผ่านมา ส่วนที่อินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ในปี 2558 เพราะเริ่มดำเนินธุรกิจในช่วงปี 2558 นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจสีอุตสาหกรรม บริษัทได้มีการเข้าไปลงทุนตั้งสำนักงานในประเทศมาเลเซีย เพื่อเป็นฐานในการขยายกลุ่มลูกค้าของบริษัท อนึ่ง การเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ บริษัทได้ใช้เงินลงทุนไม่มาก เพราะเป็นช่วงแรกของการลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่การลงทุนจะให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นหลัก รองลงมาจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ ซึ่งบริษัทมองว่าตลาดต่างประเทศ มีโอกาสโตได้อีกมาก ประกอบกับมีความคาดหวังของลูกค้าในต่างประเทศว่า จะต้องได้รับงานคุณภาพเดียวกับที่ทางบริษัททำในไทย ซึ่งบริษัทก็ตอบรับกับเงื่อนไขนี้ ทำให้มีลูกค้าแสดงความสนใจเข้ามามาก สำหรับการจ่ายเงินปันผลของบริษัท ที่ผ่านมาได้มีการจ่ายปันผลมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปี ซึ่งตามนโยบายบริษัทจะปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล (โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม) ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ทางบริษัทได้มีการอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท ซึ่งจะจ่ายปันผลในวันที่ 20 เมษายน 2558 โดยจะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 11 มีนาคม 2558 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลตามมาตร 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทในปี 2557 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 65.66 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 96.52 ล้านบาท โดยรายได้รวมสำหรับปี 2557 อยู่ที่ 472.96 ล้านบาท ลดลงเป็นจำนวนเงิน 81.79 ล้านบาท หรือ 14.74 % โดยกำไรสุทธิและรายได้ที่ปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะจากการบริโภคของสินค้า ทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ภายในประเทศ มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้รายได้จากการขายและบริหารจำนวนเงิน 452.11 ล้านบาท ลดลงเป็นจำนวนเงิน 76.71 ล้านบาท หรือลดลง 14.51% ซึ่งกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่สำหรับปี 2557 มีจำนวนเงิน 65.66 ล้านบาท ลดลงเป็นจำนวนเงิน 30.86 ล้านบาท หรือลดลง 31.97% เมื่อเทียบกับงดเดียวกันของปีก่อน โดยทั้งหมดนี้เป็นผลของการลดลงของรายได้เป็นอย่างมาก