Easy E-Receipt 2.0

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ได้เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันที่ 15 มกราคม 2568 คาดการณ์ว่า SET Index อาจมีโอกาสรีบาวด์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มกราคม กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผยข้อมูลดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พบว่าในเดือนธันวาคมปี 2567 ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.5% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเปิดเผยตัวเลข PPI ค่าของเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ได้อ่อนค่าลง ขณะที่ทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย มีการปรับตัวขึ้น ซึ่งคาดว่าทิศทาง SET Index อาจปรับตัวขึ้นตามไปด้วย อีกหนึ่งปัจจัยที่ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำให้นักลงทุนติดตามคือ การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คืนวันนี้ ขณะที่ ประเด็นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐนั้น ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่ามีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อตัวเลข ซึ่งมองว่าส่วนหลักๆที่ส่งผลคือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องติดตามส่วนนี้ว่ามีทิศทางราคาปรับตัวขึ้นไปหรือไม่ หากไม่ได้ปรับตัวมากนักตัวเลขเงินเฟ้ออาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากเหมือนช่วงที่ผ่านนอกจากนี้ เมื่อวานนี้ องค์กรข้อมูลด้านพลังงาน (EIA) ได้ออกคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีกำลังการผลิตที่มากขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวอ่อนลง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาหุ้นในกลุ่มธุรกิจแก๊สและน้ำมัน จากการศึกษาของฝ่ายนักวิเคราะห์เกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อดัชนี SET Index พบว่า ในช่วงสงครามการค้าสหรัฐ-จีน (Trade War) หากสหรัฐตั้งกำแพงภาษีกับจีน ฝ่ายจีนจะตอบโต้ด้วยการปรับขึ้นภาษีเช่นกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายเริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่อาจไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งคู่ และมีการเจรจากันเป็นช่วงๆ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยทำให้ดัชนี SET Index ปรับตัวรีบาวด์ขึ้นได้ ส่วนกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ซึ่งเป็นมาตรการลดหย่อนภาษีในปี 68 โดยหนึ่งในหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดี คือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เนื่องจากมูลค่าของการลดหย่อนภาษีที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการซื้อสินค้ามูลค่าสูง เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือสินค้าระดับ Brandname ซึ่งคาดว่าได้มูลค่าประมาณ 30,000 บาท สำหรับการซื้อสินค้าดังกล่าว ฝ่ายนักวิเคราะห์จึงแนะนำให้ “ซื้อสะสม” โดยมีราคาพื้นฐานที่ 35 บาท ในงานปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market" ที่จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้นธุรกิจ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการลงทุนในโครงการ Data Center และ Financial Data Hub ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อหุ้นของ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF โดยคาดว่าหุ้นของบริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากโครงการดังกล่าว และแนะนำให้ "ซื้อ" โดยมีราคาพื้นฐานที่ 60.50 บาท นอกจากนี้ งาน Chat with Tony ที่ผ่านมา มีการกล่าวถึงหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น การจัดการถมทะเล, คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) และการใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาผู้ป่วย โดยฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่าหุ้นของบริษัทที่อาจได้รับประโยชน์จากประเด็นเหล่านี้ ได้แก่ บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO ซึ่งเมื่อวานนี้ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นในทิศทางที่ตอบรับข่าวที่ออกมาแล้ว ส่วนในเรื่องของการสนับสนุนการใช้ “สเต็มเซลล์” เพื่อรักษาผู้ป่วย ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่า บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE จะได้รับประโยชน์จากประเด็นนี้เช่นกัน