ECGO

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยถึงกรณีมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อออนไลน์ของ สปป.ลาว ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนท้ายน้ำเขื่อนน้ำเทิน 1 สปป.ลาว เมืองปากกะดิ่ง แขวงบอลิคำไซ จากกรณีพบการรั่วซึมจากขั้นตอนการก่อสร้าง เบื้องต้น สทนช.ได้มีการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พบว่า การรั่วซึมของเขื่อนตามที่มีการนำเสนอข่าว เกิดจากกระบวนการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตบดอัด อาจมีน้ำไหลผ่านช่องเล็ก ๆ ของชั้นดินและชั้นหินด้านข้างตัวเขื่อน และไม่อยู่ในบริเวณที่เป็นโครงสร้างของเขื่อน ซึ่งเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จึงไม่มีผลต่อความมั่นคงของเขื่อนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท สทนช.ได้มีการติดตามประเมินสถานการณ์น้ำโขงบริเวณที่ใกล้กับการระบายน้ำจากเขื่อนน้ำเทิน 1 ซึ่งคือบริเวณสถานีนครพนม จ.นครพนม ยังมีระดับน้ำปกติและมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5.77 เมตร การไหลของน้ำก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น 0.40 ม. ขณะเดียวกัน สทนช.ยังได้มีการประเมินผลกรณีเขื่อนน้ำเทิน 1 มีการระบายน้ำ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำของแม่น้ำโขงบริเวณ จ.บึงกาฬ หนองคาย และนครพนม เนื่องจากสถานการณ์แม่น้ำโขงปัจจุบันบริเวณสถานีหนองคายและนครพนมยังมีระดับน้ำปกติและมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งค่อนข้างมาก ขณะที่น้ำโขงสามารถรองรับการไหลของน้ำได้ถึง 27,000 ลบ.ม./วินาที แต่เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกและข้อกังวลของประชาชนริมน้ำโขง สทนช.จะแจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำโขงไปยังจังหวัดริมน้ำโขงรับทราบโดยเร็วต่อไปด้วยเช่นกัน สำหรับเขื่อนน้ำเทิน 1 ลักษณะของเขื่อนเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัด ความสูงเขื่อนประมาณ 197 เมตร ความจุเก็บกัก 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร กั้นแม่น้ำกะดิ่ง ห่างแม่น้ำโขงประมาณ 33 กิโลเมตร ซึ่งลักษณะการไหลเมื่อมีการระบายน้ำจากเขื่อนน้ำเทิน 1 จะไหลลงแม่น้ำกระดิ่งของ สปป.ลาว จากนั้นจะไหลลงแม่น้ำโขงบริเวณตรงข้ามกับจังหวัดบึงกาฬ ขณะนี้อยู่ระหว่างเก็บกักน้ำปีแรก และมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้ประเทศไทย เดือนสิงหาคม 2565 โดยเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเริ่มต้นการกักเก็บน้ำเข้าสู่อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนน้ำเทิน 1 โดยมีสอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน เป็นประธาน สำหรับโครงการเขื่อนไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ดำเนินการโดยบริษัทไฟฟ้าน้ำเทิน 1 จำกัด ที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัทพอนสัก กรุ๊ป (PSG) ถือหุ้น 60% ในขณะเดียวกัน บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO บริษัทลูกของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) ถือหุ้น 25% และ บริษัทผลิต-ไฟฟ้าลาว มหาชน (EDL-Gen) ถือหุ้น 15% ในส่วนของน้ำเทิน 1 เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ รูปแบบการก่อสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตอัดแรง (RCC) สันเขื่อนยาว 771 เมตร สูง 177 เมตร เนื้อที่อ่างเก็บน้ำ 9,360 เฮกตาร์ หรือประมาณ 58,500 ไร่ สามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร มูลค่าการลงทุนทั้งหมด 1,335 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในนี้ 70% เป็นเงินกู้จากกลุ่มธนาคารในประเทศไทย 4 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทิสโก้, และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่เหลือ 30% เป็นเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 มีกำลังการผลิตติดตั้ง 650 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 2,562 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี EGAT ได้เซ็นสัญญาซื้อไฟฟ้าจากโครงการน้ำเทิน 1 จำนวน 514.3 เมกะวัตต์ เมื่อปี 2560 ส่วนอีก 130 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ขายให้รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เพื่อใช้ในประเทศ โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทั้ง 2 ฉบับ มีอายุ 27 ปี นับจากวันเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2565