ENTEL

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ม.ค.68) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า อยู่ที่ 1,290.04 จุด ติดลบ 24.46 จุด หรือลดลง 1.86% ดัชนีต่ำสุด 1,270.87 จุด สูงสุด 1,296.07 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33,407.42 ล้านบาท โดยในช่วงภาคเช้าดัชนีปรับตัวลงแรงเกือบ 40 จุด จากความกังวลจากรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีแคนาดาและเม็กซิโกที่ 25% และจีนที่ 10% เป็นแรงกดดันต่อแรงกดดันต่อบรรยากาศลงทุนทั่วโลก และทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นใหญ่ออกมา ก่อนที่จะดัชนีจะลดช่วงลบปิดภาคเช้าเหลือเพียงลบ 24 จุด และหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,300 จุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหุ้นในกลุ่ม SET100 จำนวน 8 หลักทรัพย์ที่ยังบวกสวนภาวะตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง คือ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL และ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9, CHG, IVL, BCP, TIDLOR, ERW และ MINT ตามข้อมูลในตารางด้านล่าง ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลงตามกัน จากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐเดินหน้ากดดันคู่ค้าหลัก ซึ่งได้ทำมาตรการกีดกันทางการค้าโดยเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีน 10% ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่ตลาดคาด ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้นในวันนี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย ขณะเดียวกันยังคงไม่มีปัจจัยหนุนอื่น ๆ ที่เข้ามาหนุนต่อดัชนี และยังเผชิญกับแรงขายลดความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการขายออกมากดดันดัชนี ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวลงแรง แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าแกว่งตัวแดนลบต่อ แต่อาจมีการลดช่วงลบน้อยลงได้ เนื่องจากดัชนีปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ทำให้อาจมีการทยอยซื้อกลับบางส่วน โดยให้แนวต้าน 1,300 จุด แนวรับ 1,280 จุด