GLOBAL DOHOME

ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ระบุในแถลงการณ์ว่า ช่วงวันที่ 13-18 กันยายน 2567 จะมีร่องมรสุมเลื่อนลงมาพัดผ่านประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง ทั้งนี้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันบริเวณที่ลุ่มต่ำและชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ รวมทั้งน้ำป่าไหลหลากบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ขณะที่ ในภาคเหนือโดยเฉพาะสถานการณ์ อ.แม่สาย และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ในปัจจุบันนั้นเป็นผลกระทบจากอิทธิพลพายุยางิ ซึ่งลดระดับจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นเป็นพายุดีเปรสชันครอบคลุมพื้นที่ทางตอนบนของประเทศไทย เมื่อระหว่างวันที่ 8-10 กันยายน 2567 ที่ผ่านมาส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกหนักมาก โดยสอดคล้องกับบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า สถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงนี้และนับว่าสถานการณ์หนักกว่าปี 2566 ซึ่งคาดการณ์เป็นผลมาจากปรากฏการณ์ ลานีญา และ พายุยางิ แต่อย่างไรก็ตามยังน้อยกว่าปี 2554 ที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ยังน้อยอยู่ แม้อาจกดดันภาพรวมการจับจ่ายใช้สอยอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีหุ้นได้รับปัจจัยเชิงบวก (Sentiment) ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำหุ้นหลบช่วงสถานการณ์ฝนตกและน้ำท่วม ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงานน้ำ คือ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP และแนะนำหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลยารักษาโรค อาทิ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA, หุ้นกลุ่มเกษตร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA รวมถึงแนะนำหุ้นขายวัสดุซ่อมสร้าง อาทิ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่า DOHOME น่าจะฟื้นตัวได้ในระยะต่อไปเนื่องจากปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ 1.แนวโน้มการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนจากการศึกษาของฝ่ายนักวิเคราะห์ พบว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงต้นปี 2564 หลังจากที่ลดลงไปอยู่ที่ 57.1% ในปี 2563 อันเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19 ระบาด 2.กำลังจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวในขณะที่รายได้ภาคเกษตรเพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3.อุปสงค์การซ่อมแซมบ้านเพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วม โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มการซ่อมแซม และ ซ่อมบำรุงคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 35% ของยอดขายรวม และ ประมาณ 38% ของสาขาร้าน DOHOME อยู่ในภาคเหนือ และ อีสาน ดังนั้น คาดการณ์ว่ากำไรของ DOHOME จะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/67 ไปถึงไตรมาส 1/68 นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่ากำไรของ DOHOME จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในช่วงครึ่งหลังปี 2567 โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2568 อยู่ที่ 12.20 บาท ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง TASCO ในระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสได้แรงหนุนจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาพเหนือที่เริ่มรุนแรงขึ้น หากลุกลามและขยายมายังจังหวัดอื่นๆในภาคกลางตอนบน จะเป็น Sentiment หนุน TASCO จากการซ่อมแซมถนนหลังน้ำลด หนุนความต้องการยางมะตอยในประเทศ ขณะที่ภาพรวมแนวโน้มกำไรช่วงครึ่งหลังปี 67 คาดเร่งตัวขึ้นจากครึ่งแรกปี 67 จากการเบิกจ่ายงบฯ 67 ที่เร่งตัวในไตรมาส 3/67 ขณะที่งบฯปี 68 คาดการณ์ไม่ล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญเหมือนปีก่อน แนะนำ "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus อยู่ที่ 18.57 บาท