GULFI

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดหุ้น และติดตามการดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กฎหมายให้เร่งดำเนินการอย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนในการเร่งรัดแก้ไขกฎหมายเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นตลาดทุน ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทฯ ได้แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน ซึ่งเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2568 พบว่ามีจำนวนหุ้นซื้อคืน 300,000 หุ้น โดยมีราคาที่ซื้อคืนสูงสุด 1.91 บาท ราคาต่ำสุด 1.91 บาท มีมูลค่ารวม 573,000 บาท ทั้งนี้ ทำให้จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบันทั้งหมดแล้ว 290 ล้านหุ้น ซึ่งมีสัดส่วนของจำนวนซื้อหุ้นคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว 0.30% มูลค่ารวมที่ซื้อคืนแล้วทั้งหมด 565 ล้านบาท ยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เผย ภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้นร่วมและการจดทะเบียนการควบบริษัทแล้วเสร็จ บริษัทและ INTUCH จะสิ้นสภาพ จากการเป็นนิติบุคคล และเกิดเป็นบริษัทมหาชนจำกัดขึ้นใหม่ (NewCo) ดังนั้น เพื่อให้ NewCo สามารถใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์เดียวกันกับบริษัทได้ บริษัทจึงขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงชื่อย่อหลักทรัพย์โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป โดยชื่อย่อหลักทรัพย์เดิม GULF ชื่อย่อหลักทรัพย์ใหม่ GULFI ศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค หรือ PF เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจและสร้างรายได้ให้เติบโตในปี 2568 ด้วยความหลากหลายของสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทั้งในโครงการที่ดำเนินการอยู่ โครงการใหม่ ตลอดจนธุรกิจใหม่ ตั้งเป้ายอดขายที่ 1.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 7.5 พันล้านบาท คอนโดมิเนียม 1.5 พันล้านบาท และโครงการร่วมทุน 2 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้รวม 1 หมื่นล้านบาท แยกเป็นแนวราบ 7 พันล้านบาท คอนโดมิเนียม 1.5 พันล้านบาท และโครงการร่วมทุน 1.5 พันล้านบาท บีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญขนาดใหญ่ 4 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 200,000 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เงินลงทุน 109,210 ล้านบาท และ โครงการ Data Center รวม 3 โครงการ จากประเทศไทย จีน และสิงคโปร์ เกียรติก้อง ว่องไวยากร