ich

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(11เม.ย.68) ราคาหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มวิ่งคึกนำโดยบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ณ เวลา 11:26 น. อยู่ที่ระดับ 11.70 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.54% ราคาสูงสุด 11.70 บาท ราคาต่ำสุด 11.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 27.96 ล้านบาท บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ณ เวลา 11:27 น. อยู่ที่ระดับ 36.25 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.40% ราคาสูงสุด 36.50 บาท ราคาต่ำสุด 35.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 11.58 ล้านบาท บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ณ เวลา 11:29 น. อยู่ที่ระดับ 61.00 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 2.09% ราคาสูงสุด 61.50 บาท ราคาต่ำสุด 59.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 74.77 ล้านบาท นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของหน้าร้อนปี 2568 อาจจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยังคงทำให้ภาคของการบริโภคเครื่องดื่มโดยรวมยังคงเร่งตัวขึ้น ซึ่งหุ้นเครื่องดื่มที่มีทิศทางผลประกอบการเติบโตโดดเด่นรับหน้าร้อน และยังคงแนะนำลงทุน "ซื้อ" ได้แก่ 1. บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กำหนดราคาเป้าหมาย 17 บาทต่อหุ้น, 2. บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE กำหนดราคาเป้าหมาย 52 บาทต่อหุ้น และ 3. บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE กำหนดราคาเป้าหมาย 11.10 บาทต่อหุ้น โดย ICHI คาดว่ายอดขายในปี 2568 มีโอกาสเติบโตขึ้น 10% จากปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อน รวมทั้งเป็นหุ้นที่มีปันผลสูง คาดว่าในปี 2568 จะมี Dividend Yield (อัตราผลตอบแทนเงินปันผล) อยู่ที่ 8.5% ขณะที่ SAPPE ในปี 2568 การบริหารต้นทุนโดยรวมน่าจะใกล้เคียงกับปี 2567 และเป็นหุ้นที่คลายแรงกดดันการปรับขึ้นภาษีนำเข้าในสหรัฐฯ น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวได้ ซึ่งฤดูร้อนเป็นปัจจัยหนุนในเรื่องของเครื่องดื่มด้วย ส่วน MALEE ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่ากำไรสุทธิมีโอกาสเติบโต 16% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 308.15 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ค่อนข้างต่ำ ซึ่งอยู่ในเลขหลักเดียว ดังนั้น ในระยะกลาง-ยาว มีโอกาสฟื้นตัวได้ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า กลยุทธ์ของ ICHI ในปี 2568 จะใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตรวมที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,700 ล้านขวด โดยบริษัทมีแผนลุยออกสินค้าใหม่ตอบทุกโจทย์ครบทุก Gen เพื่อสนับสนุนเป้าหมายยอดขายในปี 2568 ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 9,500 ล้านบาท เติบโต 10.5% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 8,594.4 ล้านบาท สำหรับในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการออกแคมเปญ "อิชิตัน ชาเขียวเก๊กฮวย" พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์คู่ฮอตเกิรล์เลิฟเบอร์ 1 แห่งยุค “หลิง-ศิริลักษ์ คอง” และ “ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์” อีกทั้งได้เปิดตัว "อิชิตัน ทีเพลย์" ชาเขียวเจนใหม่ บูสสส…. เอเนอร์จี้ ได้ทุกโมเมนต์ สดชื่นตลอดวัน มาพร้อมรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว ขณะที่แบรนด์ "เย็นเย็น" จะมีการจับมือกับยักษ์ใหญ่ Tencent หลังสร้างปรากฏการณ์ความสดชื่นในรายการ CHUANG Asia Season 2 รายการไอดอลระดับเอเชียแล้ว ซึ่งเตรียมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ผู้ชนะในรายการ และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Gen Z ด้วย "เย็นเย็น ถังหูลู่" ส่วนแบรนด์ "ตันซันซู" ยังพร้อมเสิร์ฟความซ่าสดชื่นบุกงานสงกรานต์เชียงใหม่ และแบรนด์ "ตัน พาวเวอร์" ลุยขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน Makro เพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภค นอกจากนี้ แบรนด์ชาพรีเมียม "ชิซึโอกะ" ได้เปิดตัว "ชาเขียวมะลิ โนชูการ์" ชาเขียวคราฟท์รสนุ่มหอมกลิ่นมะลิ และสินค้านอน-ที แบรนด์ "น้ำด่างอิชิตัน" ได้เปิดตัวขนาด 1 ลิตร สำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพไปแล้ว ด้านนางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า บริษัทมองแนวโน้มอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) และความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศในปี 2568 มีส่วนสนับสนุนต่อการบริโภคเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและมีรสชาติแปลกใหม่ ขณะที่ SAPPE ไม่ได้ประเมินเฉพาะปัจจัยบวกเพียงด้านเดียว แต่ยังคงติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนด้านภาษีระหว่างประเทศ ต้นทุนวัตถุดิบ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการวางแผนธุรกิจในระยะกลางและระยะยาว สำหรับในไตรมาส 2/2568 บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสภาพอากาศ เทรนด์ผู้บริโภค และการแข่งขันที่ทวีความเข้มข้น บริษัทยังคงยึดมั่นในพันธกิจของการส่งมอบสินค้าคุณภาพจากประเทศไทยสู่ผู้บริโภคทั่วโลก ขณะเดียวกัน ตลาดในประเทศ บริษัทให้ความสำคัญกับทั้งการรักษาฐานลูกค้าเดิม และการขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์ที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ทั้งนี้ SAPPE มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดย SAPPE ตั้งเป้าออกสินค้าใหม่ไม่น้อยกว่าปีละ 20 SKU ซึ่งครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับเทรนด์สุขภาพ ความยั่งยืน และความชื่นชอบเฉพาะกลุ่มในแต่ละตลาด ขณะที่ในไตรมาส 2/2568 บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ 1. B’lue (บลู) น้ำผสมวิตามิน 2 รสชาติพิเศษ แตงโมปั่น และโยเกิร์ตเจลลี่ปั่น ที่ยังคงคุณประโยชน์จากวิตามิน B3, B6, B12 และวิตามิน C200 เต็มขวด โดยทั้ง 2 รสนี้ จะวางจำหน่ายเฉพาะช่วงหน้าร้อนนี้เท่านั้น และ 2. Sappe Aloe Vera กับ 2 รสชาติใหม่ ชาพีช และชาองุ่นมัสคัต เครื่องดื่มชาผลไม้ผสานว่านหางจระเข้ชิ้นโต พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกใหม่ ที่ให้ความอร่อยสดชื่นและมีเอกลักษณ์ และยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่อื่น ๆ ที่เตรียมเปิดตัวตามมาอีกหลายรายการ SAPPE หวังว่าผู้บริโภคจะชื่นชอบในความอร่อย ความสดชื่น และความแปลกใหม่ที่ SAPPE ตั้งใจนำเสนอ และได้รับการตอบรับที่ดีเช่นที่ผ่านมา