IEA

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิด (9 ก.พ.) ร่วงลง 1.75 ดอลลาร์ หรือ 5.9% แตะที่ระดับ 27.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดร่วงลง 2.56 ดอลลาร์ หรือ 7.8% แตะที่ระดับ 30.32 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงหลังจาก IEA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ลงสู่ระดับเฉลี่ย 37.59 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 38.54 ดอลลาร์/บาร์เรล และได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์ลงสู่ระดับเฉลี่ย 37.52 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 40.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะเดียวกัน IEA ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1.17 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 1.6 ล้านบาร์เรลในปีที่แล้ว รายงานของ IEA ระบุว่า อุปทานน้ำมันจะยังคงสูงกว่าอุปสงค์ตลอดทั้งปีนี้ และคาดว่าปริมาณน้ำมันจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะลดลงเพียง 0.6 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ขณะเดียวกัน IEA มองว่าดอลลาร์จะยังคงแข็งค่า และจะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันต่อไปในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่า การประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียและเวเนซุเอลาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการใช้มาตรการลดกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมัน