JNTO

หลัง “ญี่ปุ่น” เริ่มเปิดประเทศ ตั้งแต่ 11 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา ล่าสุดองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 2 ล้านคน ในเดือน เมษายน 2566 เพิ่มขึ้น 6 แสนคน เมื่อเทียบกับตัวเลขนักท่องเที่ยว 1.4 แสนคน เมื่อช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า แม้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยว 2 ล้านคนในเดือน เมษายน ต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีจำนวนถึงเกือบ 3 ล้านคนนั้น แต่จากการอ้างอิงตัวเลขเศรษฐกิจของบลูมเบิร์ก พบว่ารายจ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วนถึง 1.1% ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ 1.6% ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ โดยยอดการใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในเมืองและจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ผนวกกับปัญหาแรงงานขาดแคลนที่เรื้อรังส่งผลให้โมเมนตัมอัตราค่าจ้างเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาในส่วนของภาคการบริการด้วยเช่นกัน เป็นสิ่งที่นายคาซุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ต้องการจะเห็นก่อนที่จะมีการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โยเฮย์ ฟูจิวาระ ผู้จัดการโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นในนากาโน ที่ตั้งอยู่ระหว่างนากะเซนโด เป็นเส้นทางธรรมชาติระหว่างโตเกียว และเกียวโต ปรับราคาห้องพักเพิ่มขึ้น 8% เป็น 100 ดอลลาร์ต่อคืน ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าคู่แข่งอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม โดยระบุว่า มีเพียงชาวญี่ปุ่น ที่เคยมาพักก่อนหน้านี้เท่านั้น ที่บอกว่าราคาระดับนี้ถือว่าแพง ขณะนี้ห้องพักของเขาเกือบเต็มหมดแล้วจนถึงสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ดีห้องพักที่จองเต็มแล้วไม่ได้หมายถึงการเปิดดำเนินงานอย่างเต็มจำนวน โดยฟูจิวาระ ระบุว่าโรงแรมของเขามีพนักงานที่เพียงพอสำหรับการดูแลแขก เพียงแค่เครื่องเดียวของจำนวนห้องพักที่เขามีอยู่ และเขาอาจต้องขึ้นค่าจ้างเพื่อเป็นการดึงดูดแรงงานเหมือนอย่างที่โรงแรมอื่น ๆ ในละแวกเดียวกันทำ เนื่องจากสังคมที่เข้าสู่ภาวะสูงวัยและอัตราการเกิดที่ลดลงส่งผลกดดันจำนวนผู้ที่มีความสามารถในการทำงาน ตัวเลขในเดือน มีนาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าถึงแม้อัตราค่าจ้างเฉลี่ยทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3% จากปีก่อนหน้า แต่อัตราค่าจ้างสำหรับร้านอาหารและบาร์นั้นกลับพุ่งขึ้นถึง 13% บริษัทวิจัยเตโกกุดาต้าแบงก์ ระบุว่า 3 ใน 4 ของโรงแรมในญี่ปุ่น รายงานถึงปัญหาขาดแคลนพนักงานประจำเมื่อเดือน เมษายนที่ผ่านมา ที่อยู่ในระดับสูงสุดจากการทำแบบสำรวจ เมื่อเทียบอุตสาหกรรมอื่น ๆ ขณะที่ประมาณ 85% ของร้านอาหาร ระบุว่า พวกเขาไม่มีแม้กระทั่งพนักงานพาร์ตไทม์ที่เพียงพอ.. ทั้งนี้ “ญี่ปุ่น” พยายามพึ่งพาการท่องเที่ยวเพื่อเป็นกุญแจสำคัญสำหรับแผนผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ต้องการให้มีการใช้จ่ายในภูมิภาคอื่น ๆ ที่ต้องเผชิญกับกระแสการย้ายถิ่นของคนหนุ่มสาว เพื่อเข้าไปอยู่ในเมืองใหญ่ โดยญี่ปุ่น ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 60 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2573 คิดเป็นจำนวนถึงสามเท่าตัวจากปี 2558 และมากกว่าจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ปี 2562 อยู่ที่ระดับ 32 ล้านคน ขณะที่สกุลเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่า แตะระดับต่ำสุดรอบ 6 เดือน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเว็บ ไซต์อโกด้า ระบุว่า เห็นยอดจองสำหรับญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก... สรุปแล้ว..ท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นตัว..แต่ถูกปัญหาคือ “แรงงาน” ที่ขาดแคลน..ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าเมื่อมีโอกาสแล้ว..จะแก้วิกฤตินี้ได้อย่างไร..!!?