KACL

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ต.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ล่าสุด ณ เวลา 10:29 น. อยู่ที่ระดับ 5.75 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 7.48% สูงสุดที่ระดับ 5.85 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 53.78 ล้านบาท โดยวานนี้(11ต.ค.66) NRF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทแจ้งมติคณะกรรมการบริหารเรื่องอนุมัติการลงทุนใน SPAC โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา บริษัท Bamboo Mart Limited (“BAMBOO”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่ถือหุ้นร้อยละ 100 ได้ลงนามในข้อตกลงการรวมธุรกิจ (BCA) กับ Kairous Acquisition Corp. Limited (“KACL”) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกหรือการเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (NASDAQ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบรวมกับกิจการกับธุรกิจอื่น ๆ ที่เรียกว่า Special Purpose Acquisition Company (SPAC) โดยการลงนามข้อตกลงการรวมธุรกิจ BCA ถือเป็น กระบวนการขั้นสุดท้ายก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (U.S. SEC) จะพิจารณารับหุ้นและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ สำหรับ BAMBOO เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นกลยุทธ์ในการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารเพื่อสุขภาพของเอเชียต่อผู้บริโภค โดยตรงผ่านหลายช่องทางในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ KACL ได้มีการเผยแพร่รายละเอียดผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (U.S. SEC) โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง https://www.sec.gov/ix?doc/Archives/edgar/data/1865468/000149315223036354/form8-k.htm ด้านนายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน และอาหารโปรตีนจากพืช เปิดเผยว่า หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐ ได้อนุมัติแผนควบรวมกิจการ Kairous Asia Ltd. เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเตรียมส่ง BAMBOO MART ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NRF เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ ภายในปี 2567 ตามแผนงานที่วางไว้ “การเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น NASDAQ ของ BAMBOO MART ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนและกลยุทธ์ Omni Channel เนื่องจากเราเล็งเห็นถึงโอกาสในการแข่งขันของเวทีสากลที่มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังสามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้การควบรวมในครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดศักยภาพให้แก่บริษัท ผลิตภัณฑ์ รวมถึงผู้ประกอบการอื่น ๆ ที่มีแผนจะผลักดันผลิตภัณฑ์ของตนเองเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ซึ่งนอกจากนี้เรายังมีเป้าหมายสู่การเป็นผู้พัฒนา ผู้ผลิต-ส่งออก และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเอเชียชั้นนำระดับโลกอีกด้วย” ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มีการศึกษาแผนร่วมลงทุนกับพันธมิตร และการสร้าง Synergy ให้กับธุรกิจ มาตั้งแต่ปี2564 เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงในกลุ่มธุรกิจ เช่น ธุรกิจอาหารโปรตีนทางเลือกจากพืช (plant-based) และ/หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเป็นการต่อยอดธุรกิจให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระดับสากล เช่น ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ตลอดจนเพิ่มช่องทางให้เป็นที่รู้จักในเวทีสากลมากยิ่งขึ้น นายแดน กล่าวอีกว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการรับรู้การปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่รวมธุรกิจขายตรงถึงผู้บริโภคและธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ อีกทั้งยังได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคนรักสัตว์ ผลักดันยอดขายกลุ่ม Pet Food เติบโต หลังคนรุ่นใหม่เลี้ยงสัตว์แทนการมีลูกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยอดส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย คาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้