Krungsri iFund

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ม.ค. 68) จากกรณีสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เศรษฐกิจจีนบรรลุเป้าหมายการเติบโตของรัฐบาลในปีที่แล้ว หลังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนาทีสุดท้าย ร่วมกับการผลักดันการส่งออกก่อนที่ภาษีศุลกากรของสหรัฐที่จะมาถึงจะเร่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้าย ขณะเดียวกันข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP ) ของประเทศ ขยายตัว 5% ซึ่งสูงกว่าค่าประมาณเฉลี่ยที่ 4.9% จากผลสำรวจของ Bloomberg เล็กน้อย อีกทั้ง ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง กล่าวในคืนส่งท้ายปีเก่าว่า คาดว่าประเทศจะบรรลุเป้าหมายที่ประมาณ 5% โดยสอดคล้องกับบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ที่ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จีนเปิดตัวเลขการเติบโตของ GDP งวดไตรมาส 4/67 อยู่ที่ระดับ 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ GDP จีนปี 2567 เติบโตระดับ 5.0% ตามเป้าหมายของรัฐบาลจีน ทั้งนี้ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 6.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดเพิ่มขึ้น 5.4% โดยเร่งขึ้นจากเดือนก่อนระดับเพิ่มขึ้น 5.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งดัชนีค้าปลีก เพิ่มขึ้น 3.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าคาดระดับเพิ่มขึ้นที่ 3.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเร่งขึ้นจากเดือนก่อนระดับเพิ่มขึ้น 3.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 10.6% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าคาดระดับลดลง 10.4% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอกว่าเดือนก่อนลดลง 10.4% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้การลงทุนในสินทรัพย์คงทนอยู่ที่ระดับเพิ่มขึ้น 3.2% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนเพิ่มขึ้น 3.3% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าคาดระดับเพิ่มขึ้นที่ 3.3% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 5.1% สูงกว่าตลาดคาดที่ระดับ 5.0% เล็กน้อย ขณะที่เศรษฐกิจจีนเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 5.0% หลังรายงานการเติบโตของ GDP งวดไครมาส 4/67 ระดับ 5.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนดีกว่าตลาดคาด ทั้งนี้ ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจจีน ธ.ค. ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อยในส่วนของดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมและดัชนีค้าปลีก อย่างไรก็ตาม ภาคการลงทุนสินค้าคงทนและอสังหายังคงชะลอตัวลงมากกว่าคาด สัปดาห์หน้าติดตามการประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของ PBOC โดยตลาดคาดว่าจะคงไว้ที่ระดับ 3.1% สำหรับอายุ 1 ปี และ 3.6% สำหรับอายุ 5 ปี ภาพรวมยังคงคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอุปสงค์ในประเทศและภาคอสังหาในระยะต่อไป โดยเฉพาะช่วงใกล้การประชุมสองสภาช่วง 5 มี.ค. นี้ ที่จะมีการกำหนดเป้าหมายการเติบโตของปีนี้และแนวนโยบายเศรษฐกิจ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเรามองน่าสะสมหุ้น China Play เมื่ออ่อนตัว ได้แก่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL โดยให้ราคาเป้าหมาย 28.2 บาท, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC โดยให้ราคาเป้าหมาย 220 บาท และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC โดยให้ราคาเป้าหมาย 30.0 บาท นอกจากนี้ในมุมมอง Asset Allocation มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีนมากขึ้น โดยเราแนะนำ Overweight โดยมีกองทุนที่แนะนำ ผ่านทางกองทุนกรุงศรีและ Krungsri iFund ได้แก่ KFCSI300-A (CSI300 ETF), KFACHINA-A (Active A-Shares), KF-CHINA (H-Shares ETF) และ MEGA10CHINA-A (Active H-Shares)