LEO 2

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า การลงทุนที่เวียดนามปัจจุบันมีอยู่ 2 โครงการ มีทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาทางคณะกรรมการบริษัทได้มีการอนุมัติเงินลงทุนเข้าไปซื้อหุ้น 5% ของบริษัทพันธมิตรที่เวียดนามที่เป็นบริษัทพลังงานทดแทน วงเงินลงทุนหลักหลายล้านบาทเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรในเชิงธุรกิจ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจาก International Finance Corporation หรือ IFC และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มูลค่ารวม 2.2 พันล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างวงเงินที่กลุ่มบริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน และ เป็นวงเงินเพิ่มเติมเพื่อสำหรับการลงทุนในอนาคต โดยบริษัทมีแผนที่จะเน้นการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบ Renewable Sustainability สำหรับโครงการค้างท่อที่เวียดนามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan : PDP7) ไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าไฟใหม่ เนื่องจากเป็นค่าไฟใหม่สำหรับโรงงานผลิตที่จ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไม่ทันตามกำหนด แม้ได้รับผลกระทบจากค่าไฟที่ลดประมาณกว่า 20% แต่ยังสามารถดำเนินการต่อได้เป็นผลมาจากเทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้นส่งผลทำให้ต้นทุนลดลงมาช่วยในส่วนนี้ ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ โดยไตรมาส 1/66 นี้กำลังรอใบอนุญาต ซึ่งหากได้รับการอนุมัติก็จะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปีครึ่ง คาดจะแล้วเสร็จในปี 68 และสามารถจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้เต็มปี ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายในปี 68 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นเท่าตัวแตะที่ระดับ 500 เมกะวัตต์ มีสัดส่วนจากแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานลม หรือ ชีวมวล เพิ่มมากขึ้น ด้านการลงทุนพลังงานทดแทนที่เกาหลีบริษัทฯ มีความสนใจและกำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาข้อมูล เพราะค่อนข้างใหม่กับตลาดนี้ อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะเน้นขยายการลงทุนไปต่างประเทศมากกว่า ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 66 จะเติบโต 15% ส่วนเรื่องค่าเงินได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเนื่องจากรับและใช้สกุลเงินตามแหล่งรายได้ที่ได้รับ ขณะที่ผลประกอบการของไตรมาส 4/65 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน จากรายการพิเศษที่มาจากเงินกู้ และการขายโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ฮิดากะในญี่ปุ่น คาดรายได้ทั้งปี 65 จะเติบโตอยู่ที่ราว 20-30% นอกจากนี้ในส่วนของการลงทุนธุรกิจใหม่นั้น ช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้มีการตั้งบริษัทลูก SSP NEXT VENTRUE ซึ่งจะเป็นประเภทธุรกิจอุตสาหกรรม โดยจะมองหาและเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต