LSFO

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (18 ต.ค. 2564) ราคาหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ณ เวลา 11:57 น. อยู่ที่ระดับ 67.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 3.47% โดยทำจุดสูงสุดที่ 67.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 65.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.39 พันล้านบาท บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 จะเติบโตแข็งแกร่งจากฐานต่ำ คาดเพิ่ม 6.30 เท่า จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 74% จากไตรมาสก่อน เพราะสเปรดโอเลฟินส์อ่อนลงจากไตรมาส 2/2564, ส่วนแบ่งกำไรจาก บ.ร่วมลดลง เพราะบริษัทในเครือปิดซ่อมบำรุง และไม่มีกำไรพิเศษ (ในไตรมาส 2/2564 มีกำไรจากการขายหุ้น GPSC ให้กับ PTT 17.70 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตามค่าการกลั่นที่ไม่รวมการเปลี่ยนแปลงสต็อกคาดว่า เพิ่มขึ้น 92% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน เป็น 2.30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สเปรดของอะโรเมติกส์ดีขึ้น (เพิ่มขึ้น 140% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน) คาด Norm profit ก่อนภาษีไตรมาส 3/2564 ไว้ที่ 8.10 พันล้านบาท เติบโต 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 13% จากไตรมาสก่อน สำหรับการเปิดประเทศจะหนุนค่าการกลั่นในไตรมาส 4/2564 นอกจากนั้นยังเข้าสู่ฤดูหนาวที่ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น, ระดับสต็อกของประเทศกลุ่ม OECD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และค่าพรีเมียมน้ำมันดิบลดลง สำหรับค่าการกลั่นไตรมาส 3/2564 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นโดยของ JET อยู่ที่ 11.00 เพิ่มขึ้น 107% , GO อยู่ที่ 10.70 เพิ่มขึ้น +100% และ LSFO อยู่ที่ 10.50 ลดลง 7% ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาพื้นฐาน 74 บาท อิงกับค่า P/BV ที่ 1.00 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ซึ่งคาดว่าธุรกิจปิโตรเคมีของ PTTGC ได้รับผลกระทบจากต้นทุนปรับขึ้นน้อยกว่าคู่แข่งขันที่ใช้แนฟทาเป็นวัตถุดิบ (บริษัทใช้ก๊าซราว 80% ของทั้งหมด ซึ่งราคาปรับขึ้นช้ากว่าเพราะผูกสูตรกับ PTT)