Net Profit

เรื่องที่อยากจะทิ้งท้ายก่อนถึงวันหยุดยาว เพื่อให้แฟนคลับนำกลับไปใช้ประกอบการลงทุน “โมนิก้า” คงให้ความสำคัญกับประเด็นหุ้นที่มีค่าเฉลี่ยประมาณการ Net Profit กำลังถูกปรับขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับก่อนหน้า เพราะแสดงให้เห็นโมเมนตัมทางธุรกิจมีพัฒนาการที่ดีขึ้น จึงน่าจะทำให้ราคาหุ้นมีอัพไซด์สูงกว่าเดิม และกลายเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในภาวะตลาดหุ้นผันผวนเช่นนี้พะยะค่ะ เหล่านี้เป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับดูกันยาว ๆ และเลือกใช้วิธีซื้อลงทุนเป็นหลัก เพราะหุ้นหลายตัวถูกถล่มขายเป็นแรมเดือน จนราคาหุ้นลงมาตั้งหลักที่ฐานแนวรับอย่างมั่นคง ผสานกับตลาดหุ้นก็ดูดซับข่าวร้ายไปหมดแล้ว รวมทั้งจังหวะนี้เป็นการเก็งงบไตรมาส 2 จะออกมาดีกว่าคาดการณ์ไหม? เดี๊ยนถึงมั่นใจเหลือเกินว่า เอฟเฟกต์ด้านลบจะเบาบางลง และจะถูกแทนที่ด้วยข่าวดีไงล่ะคะ สถานการณ์ดังกล่าวอ้างอิงได้จากดัชนีมีการเคลื่อนไหวในลักษณะไต่ระดับขึ้นอีกครั้ง และในระหว่างทางก็ถูกถล่มขายเป็นระลอกจากนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ (ผลัดกันซื้อ ผลัดกันขาย) แต่ดัชนีก็สามารถขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,553.18 จุด ลบไป 7.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.86 หมื่นล้านบาทจนได้ (กลางเดือนเพิ่งทำโลว์ที่ 1,517.51 จุด) เดี๊ยนถึงไม่วอรี่กับปัจจัยภายใน และภายนอกมากนัก เพราะตราบที่ทุกอย่างยังทรงตัวเหมือนทุกวันนี้ ก็ทยอยสะสมหุ้นได้นะคะ โดยเฉพาะในรายของตัวท็อปอย่าง IRPC ถือเป็นช็อตที่ย้ำหัวหมุดว่า ราคานี้ลงทุนได้สบายบรื๋อ เพราะเมื่อดูจาก Net Profit ที่อยู่ในระดับ 45% ผสานกับฐานแนวรับ 3.10 บาท ยังทำหน้าที่ประคองหุ้น และพอลงไปแตะก็เด้งปุ๊บ “โมนิก้า” ถึงเชื่อแบบสนิทใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 3.24 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108 ล้านบาท มีดาวน์ไซด์ต่ำสุด ๆ นะจะบอกให้ หุ้นตัวถัดมาที่มีผลงานสุดหรู และยังสามารถปั้น Net Profit ทะลุขึ้นไปถึง 42% “โมนิก้า” คงเหลือบมองน้องท็อป TOP แบบไม่ลังเลใจ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นกันเต็มตาว่า ผลงานสุดบรรเจิด! ผสานกับบุ๊กแวลูของหุ้นก็อยู่ที่ระดับ 62 บาท หรือแม้กระทั่งดูจาก PE 6.20 เท่า ก็ทำให้การยืนปิดที่ระดับ 50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 462 ล้านบาท น่าสนใจขึ้นเป็นกองเลยเจ้าค่ะ ส่วนรายที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกเซอร์ไพรส์มากสุด คงต้องมองไปที่น้องแอนแอ๊น ANAN เพราะกลายเป็นม้ามืดที่ทำ Net Profit สูงถึงระดับ 39% ผสานกับตัวธุรกิจอยู่ในช่วงของการเทิร์นอะราวด์ เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นไต่ขึ้นจากก้นเหว 1.16 บาทอย่างต่อเนื่อง จนวานนี้เห็นหุ้นยืนปิดที่ 1.34 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17 ล้านบาท จึงเป็นช็อตที่น่าจะเล่นกันยาวนะจ๊ะ เช่นเดียวกับในรายของ SPRC ก็นอนจุ้มปุ๊กอยู่ที่ระดับ 11 บาทมาพักใหญ่ แต่ไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นหุ้นที่เข้ามาอยู่ในลิสต์ Net Profit สูงกับเขาด้วยคน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวก็ปาเข้าไป 37% “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 11.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 229 ล้านบาท คือทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการซื้อลงทุน แถมตัวเลขสถิติสำคัญก็ซัพพอร์ตราคาหุ้นเต็มที่แบบนี้..ใส่เดี่ยว ๆ หมดแม็กก็ได้นะคะ สำหรับอีก 4 รายที่เหลืออย่าง IVL CENTEL RJH และ TTA ก็มีตัวเลขเฉลี่ย Net Profit อยู่ที่ระดับ 25, 20,13 และ 12% ซึ่งเป็นระดับที่สูงพอสมควรในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ผนวกกับหุ้นแต่ละตัวที่เอ่ยถึงก็มีสตอรี่ให้ติดตามเนือง ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองประเมินดูว่า “ราคาปิด” กับ “ราคาเป้า” มีอัพไซด์ให้เล่นเยอะขนาดไหน? เพราะเดี๊ยนไม่อยากออกตัวแรงมากไปกว่านี้ เดี๋ยวชาวหุ้นจะหาว่า “เชียร์ออกหน้า” น่ะซี ตบท้ายกันที่ “โทนี่” ซึ่งเป็นคนชงหวานให้กับหุ้น TLI ในลักษณะไม่มีแทงกั๊กกันดีกว่า! หลังเป็นคนพูดว่า กองทุนสิงค์โปร์เข้าถือหุ้นสะท้อนพื้นฐานดี แต่พอเข้าเทรดกลับไม่เป็นเหมือนที่คอมเมนต์ แถมอาการวานนี้ก็หนักกว่าเดิมเสียอีก หลังหุ้นปิดโลว์ของวันที่ระดับ 15 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 5.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.22 พันล้านบาทแบบนี้..มันหมายความว่า วาจาของคุณพี่ไม่ขลังหรือเปล่า?.., มิน่าเห็นพูดไว้เป็นสิบปีว่า เสียงปืนแตกเมื่อไหร่..ผมจะเข้าไปนำพี่น้องด้วยตัวเอง แต่จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่โผล่หัวมาให้เห็นอีกเลย..จำกันได้บ่..อิอิอิ