NHK

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (25 ก.ย.67) สำนักข่าว “ซีเอ็นบีซี” รายงานว่า ประเทศญี่ปุ่น กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนข้าวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ เหตุเพราะปัญหาด้านสภาพอากาศที่ย่ำแย่ทั้งพายุไต้ฝุ่นและเหตุแผ่นดินไหว และการเพิ่มขึ้นของอัตรานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาดินแดนซากุระ สำหรับผลกระทบการขาดแคลนข้าวครั้งนี้ทำให้เมื่อช่วงสิงหาคม 67 ที่ผ่านมา ทั้ง ซุปเปอร์มาร์เก็ตส์และห้างใหญ่ๆในญี่ปุ่นต้อง ประกาศจำกัดให้ลูกค้าซื้อข้าวสารได้แค่คนละ 1 ถุงเท่านั้น โดยสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค หรือ NHK เปิดเผยว่าการขาดแคลนข้าวนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากการไหลทะลักเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทำให้ความต้องการซูชิและอาหารเมนูที่มีข้าวเป็นส่วนประกอบพุ่งขึ้นสูง โดยปกติแล้ว อาหารญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อระดับโลกมักจะมีส่วนประกอบเป็นข้าวด้วยแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นซูชิ, โอนิกิริ หรือดงบุริ ด้าน กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ หรือ USDA ระบุในรายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ผู้บริโภคในญี่ปุ่นเพิ่มการกักตุนข้าวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูพายุไต้ฝุ่นและคำเตือนเกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โดยตลอดช่วงฤดูร้อนปี 67 ญี่ปุ่นได้เผชิญกับปัญหาขาดแคลนข้าว ส่งผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่มีข้าวขาย เนื่องจากความต้องการสูงเกินกว่าผลผลิตในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและตอนนี้สต็อกข้าวลดลงอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 20 ปี โดยเมื่อเดือนส.ค.67 ที่ผ่านมาราคาข้าวญี่ปุ่นขึ้นไปอยู่ที่ 16,133 เยน หรือราว 112.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อข้าว 60 กิโลกรัม หลังจากปรับขึ้นมา 3% จากเดือนก.ค.67 และสูงขึ้น 5% จากช่วงต้นปี 67 ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศญี่ปุ่น มีปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 17.8 ล้านคนในช่วงครึ่งแรกของปี 67 โดยในเดือนก.ค.67 ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาอยู่ที่ 3.3 ล้านคน ถือว่าเป็นระดับสูงสุดประวัติการณ์อีกด้วย