PT Station

เชื่อว่าเวลาหลายคนเดินทางไปต่างจังหวัด มักเห็นปั๊มสีเขียว หรือ PT Station ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ที่เปิดให้บริการอยู่ริมถนนเส้นเมนหลัก แต่จะเห็นคนใช้บริการบางตา ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่เข้ามาเติมน้ำมัน ทำให้บางสาขาแทบกลายเป็นปั๊มร้าง ซึ่งจะแตกต่างจากปั๊มสีฟ้าที่มีรถเข้าออกหนาแน่นโดยสิ้นเชิง... ทำให้หลายคนมองว่า แล้วผลประกอบการของ PTG จะดีอ๊ะป่าว..? แต่ปรากฏว่า เปิดงบไตรมาส 3 ออกมา กำไรสุทธิโตกระฉูดตั้ง 179.6% อยู่ที่ 181 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 65 ล้านบาท แหม๊...กำไรช่างสวนทางกับภาพของคนเข้าปั๊มเลยเนอะ..!? แถมกำไรที่เห็นนั้น ไม่ได้มาจากกำไรพิเศษแต่อย่างใด แต่เกิดจากผลการดำเนินงานปกติที่เติบโตล้วน ๆ โดยในไตรมาสนี้ PTG มีรายได้จากการขายและบริการ 45,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 30,585 ล้านบาท สำหรับธุรกิจ Oil ยังคงเป็นรายได้หลักของ PTG คิดเป็นสัดส่วน 94.3% ซึ่งในไตรมาสนี้มีรายได้จากธุรกิจน้ำมัน 42,615 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากราคาขายปลีกหน้าปั๊มเฉลี่ยอยู่ที่ 33.32 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 26% ขณะที่มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางอยู่ที่ 1,278 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 15.5% จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด ส่วนธุรกิจ Non-oil โอเค...แม้ยังมีสัดส่วนไม่มากนักเมื่อเทียบกับรายได้จากการขายน้ำมัน แต่ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในไตรมาส 3/2565 มียอดขายอยู่ที่ 2,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจุบันมีสาขาของธุรกิจ Non-Oil รวมทั้งสิ้น 1,405 สาขา เพิ่มขึ้น 327 สาขา หรือเติบโต 30.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 88 สาขา หรือเติบโต 6.7% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยรายได้จากธุรกิจ Non-Oil คิดเป็นสัดส่วน 5.7% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่ ในไตรมาสนี้ PTG มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 3,124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับราคาขายปลีกให้สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น และมีการปริหารต้นทุนได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้ค่าการตลาดเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ “เสี่ยพิทักษ์ รัชกิจประการ” แล้วล่ะ ที่ทำให้ PTG กลายเป็นปั๊มซ่อนกำไร..!! อ้อ...อีกปัจจัยน่าจะมาจากการที่ PTG เป็นปั๊มน้ำมันที่ไม่ได้ผูกติดกับโรงกลั่นไหนตายตัว ทำให้เมื่อบางโรงกลั่นมีปัญหา หรือต้องปิดซ่อมบำรุงตามวงรอบ ก็สามารถโยกไปซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นอื่นได้ ทำให้ PTG มีความยืดหยุ่นกว่าปั๊มอื่น ๆ ดังนั้นในไตรมาสนี้จึงไม่เห็นการสํารองน้ำมันเหมือนบางปั๊มที่กำไรทรุดจากการสำรองน้ำมันเพื่อรองรับโรงกลั่นในประเทศที่มีแผน Shutdown...ส่วนจะเป็นปั๊มไหนนั้น คงไม่ต้องเอ่ยชื่อหรอกนะ เห็น ๆ กันอยู่... แต่น่าเสียดาย แม้ PTG จะโชว์กำไรโตกระฉูดจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ราคาหุ้นกลับไม่หือไม่อือ นั่นเป็นเพราะถ้าเทียบกับไตรมาส 2/2565 กำไรจะหายไปราว 70% เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจขายน้ำมัน และมีผลขาดทุนจาก Palm Complex มากขึ้น...ก็เข้าใจอะนะ ทางแก้ เห็นที “เสี่ยพิทักษ์” ต้องเร่งสปีดรายได้ธุรกิจ Non-oil เข้ามาช่วยเสริมแกร่งธุรกิจแล้วล่ะ... ไม่เช่นนั้นโอกาสที่จะได้เห็นหุ้น PTG วิ่งแรลลี่ยาว ๆ คงยากละมั้ง..!! ...อิ อิ อิ...