Raymond Teh

SIAM.AI CLOUD ได้เปิดตัวคลัสเตอร์ GPU ประสิทธิภาพสูง NVIDIA H100 Tensor Core อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นพัฒนาการสำคัญที่ส่งสัญญาณถึงการปรากฏตัวของประเทศไทยในฐานะคู่แข่งที่น่าจับตามองในวงการ AI ระดับโลก พร้อมด้วยความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับสถาบันที่มีชื่อเสียงจากภาคส่วนการดูแลสุขภาพ การศึกษา และอุตสาหกรรม สำหรับงานเปิดตัวดังกล่าวประกอบด้วยไฮไลท์อย่างการสนทนาอย่างเป็นกันเองระหว่างผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ NVIDIA อย่าง เจนเซ่น หวง และซีอีโอของ SIAM.AI CLOUD อย่าง รัตนพล วงศ์นภาจันทร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการพัฒนาขีดความสามารถด้าน AI ที่ครอบคลุม ในขณะเดียวกันก็รักษาความมั่นคงของข้อมูลและส่งเสริมนวัตกรรมในท้องถิ่น โดยหัวใจของโครงการนี้คือคลัสเตอร์ GPU H100 ของ NVIDIA ซึ่งทำให้ประเทศก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านความสามารถในการประมวลผล AI ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประกอบด้วยแพลตฟอร์ม NVIDIA AI แบบ full-stack เช่น ซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise ทั้งนี้โครงการมีแผนจะขยายไปใช้งาน GPU Tensor Core H200 รุ่นต่อไปและ NVIDIA GB200 Grace Blackwell Superchips เช่นเดียวกัน นายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ กล่าวว่า ในฐานะที่ SIAM.AI CLOUD เป็นสมาชิกของโปรแกรม NVIDIA Cloud Partner ที่มีเจ้าของเป็นคนไทย 100% เพียงรายเดียว เราตระหนักถึงความรับผิดชอบในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้าน AI ของประเทศ โดยภารกิจของเราประกอบด้วยการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงการสร้างขีดความสามารถด้าน AI ของประเทศไทย Raymond Teh รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ NVIDIA กล่าวว่า มองเห็นความมุ่งมั่นของประเทศไทยที่มีต่อนวัตกรรม AI ได้จากการที่ SIAM.AI CLOUD นำโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งด้วย NVIDIA มาใช้อย่างก้าวล้ำ โดยโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศเทคโนโลยีของ SIAM.AI CLOUD ช่วยสนับสนุนความเป็นผู้นำของประเทศไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในภูมิทัศน์ AI ระดับโลก โดยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม ประกอบด้วยความร่วมมือที่สำคัญจาก 3 ภาคส่วน ได้แก่ ความร่วมมือด้านสุขภาพกับมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มุ่งเน้นการค้นคว้าและการวิจัยด้านยารักษา การถอดลำดับจีโนม และโซลูชั่น AI ทางการแพทย์แบบเฉพาะเจาะจงสำหรับประเทศไทย ความร่วมมือทางการศึกษากับมหาวิทยาลัย CMKL ที่ให้นักศึกษาและนักวิจัยสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลประสิทธิภาพสูงและพัฒนาผู้ที่มีพรสวรรค์ด้าน AI รุ่นต่อไป ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ True Internet Data Center (True IDC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชั่น AI โดยจะเน้นไปที่การประยุกต์ใช้โครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลที่เร่งด้วย NVIDIA, การพัฒนาโมเดล AI แบบสั่งทำเฉพาะ, และการนำเสนอโซลูชั่น GPU-as-a-Service โดยเน้นที่การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและความสามารถของเครื่องมือ Customer 360 ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Gulf Edge ที่ GSA Data Center เพื่อจัดหาทรัพยากรการประมวลผลที่เร่งด้วย NVIDIA ในประเทศ สนับสนุนนวัตกรรม AI ในภาคพลังงาน ดิจิทัล และโทรคมนาคม มีการเตรียม MOU ฉบับรวมระหว่าง SIAM.AI CLOUD และ Gulf เพื่อใช้ประโยชน์จากธุรกิจของกลุ่ม Gulf เช่น การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การปรับแต่งเฉพาะบุคคล และการบริการลูกค้าที่ดีขึ้น ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพิ่มเติมกับผู้นำอุตสาหกรรมรายใหญ่ โดยคาดว่าจะมีการประกาศในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าโซลูชั่น AI เชิงนวัตกรรม SIAM.AI CLOUD ได้พัฒนาโซลูชั่น AI เฉพาะทางเพื่อให้บริการในหลายภาคส่วน ได้แก่ Tourism LLMs: ผู้ช่วยด้านการเดินทางด้วยระบบ AI สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม OpenThaiGPT และปรับปรุงด้วย NVIDIA NeMo™ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับการพัฒนา AI แบบปรับแต่งเอง ระบบนี้ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์การท่องเที่ยวฉบับไทยแท้ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเดินทางที่ครอบคลุมผ่านแพลตฟอร์ม AI แบบครบวงจร AI Call Center: ระบบตอบสนองเหตุฉุกเฉินระดับสูงที่ผสมผสานเทคโนโลยีการแปลงข้อความเป็นคำพูด การแปลงคำพูดเป็นข้อความ และเทคโนโลยี LLM เพื่อการโต้ตอบแบบเรียลไทม์และการประมวลผลคำขอฉุกเฉินอัจฉริยะ โครงการนี้เปิดโอกาสให้เกิดการสร้างงานใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูง การพัฒนา IP ของท้องถิ่น และการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีบริการจากต่างประเทศ โดยโปรแกรมการพัฒนาทักษะแรงงานไทยแบบครอบคลุม (Comprehensive Thai Workforce Development Program) ประกอบด้วยเวิร์กช็อประยะสั้น และโปรแกรมระยะยาวที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้แน่ใจว่ามีการพัฒนาทักษะ AI ในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ขณะที่ประเทศไทยวางตำแหน่งตนเองให้เป็นศูนย์กลางด้าน AI ในอาเซียน โครงการนี้จึงผสมผสานโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ความร่วมมือด้านสถาบันเชิงยุทธศาสตร์ และโปรแกรมการพัฒนากำลังคน เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทยไปพร้อมกับการรักษาความมั่นคงทางเทคโนโลยี