SET ไม่วิกฤต

นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หรือ VAYU1 เปิดเผยผ่านรายการ "ข่าวหุ้นเจาะตลาด" วันนี้ (3 มี.ค.68) ว่า ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันไม่ได้เจอเหตุการณ์ที่วิกฤต แต่ถูกแรงเทขายออกมาเนื่องจากขาดความเชื่อมั่น รวมถึงแรงขายจากกองทุน LTF ที่เข้ามากดดันเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มองว่าดัชนี SET อาจไม่ลงมาถึงระดับ 800-900 จุด เนื่องจากไม่ใช่ช่วงวิกฤต แต่หากมีการปรับตัวลดลงมา เชื่อว่ามีแรงรับแน่นอน ทั้งจากนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนในประเทศ เนื่องจากมี PE ที่น่าสนใจในระดับที่ 10 เท่า ซึ่งทำให้นักลงทุนจะหันกลับมาลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีแนวโน้มเติบโตได้ในระยะยาว ซึ่งในมุมมองของกองทุนมองว่า การปรับตัวลงมาของ SET Index ในขณะนี้ถือเป็นเรื่องในดีในการเข้าลงทุน เพื่อผลตอบแทนในระยะยาว สำหรับสมาคมฯ ยังคงมีการกระจายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีสภาพคล่องคงเหลืออีกหลายหมื่นล้าน ซึ่งหลักทรัพย์ที่เลือกลงทุนจะเน้นไปทางหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีที่มีราคาลงมาลึก มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และเป็นหุ้นกลุ่ม ESG เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ในระยะยาว ทั้งนี้ สมาคมฯ มองว่าปัจจัยที่จะช่วยตลาดหุ้นไทยฟื้นชีพกลับมาได้ จะต้องเริ่มด้วยการสื่อสาร และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ซึ่งหากมีเซนติเมนต์ที่ดี เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถกลับมาได้ และกลับมาได้เร็ว อีกทั้งหากแรงขาย LTF หมดไป ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย โดยการที่จะฟื้นตลาดหุ้นไทยจะต้องใช้หลายองค์ประกอบเพื่อให้เกิดแรงกระตุ้น ทั้งในส่วนการบริโภคภายใน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงต้นปีพบว่ามีการเติบโต ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก็จะช่วยฟื้นฟูตลาดหุ้นไทยให้กลับมาปกติได้ “ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันไม่ปกติ เนื่องจากต่ำกว่าปกติ การฟื้นชีพตลาดหุ้นไทยต้องใช้หลายองค์ประกอบ เชื่อว่า วันนี้ลง สุดท้ายก็ต้องขึ้น และสามารถขึ้นได้ด้วยตัวเอง แต่หากมีเครื่องมีมาช่วยก็จะทำให้ปรับตัวขึ้นได้ดีขึ้น และเชื่อว่าตอนนี้มีหลายฝ่ายกำลังร่วมมือกันอยู่” นางชวินดา กล่าว นางชวินดา ยังกล่าวถึงข่าวลือที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับอัตราส่วนสินทรัพย์ต่อหนี้สิน (Asset Coverage Ratio หรือ ACR) ของ “VAYU1” ที่กำลังประสบปัญหา จนต้องปรับพอร์ตขายสินทรัพย์ ว่า ไม่เป็นความจริง โดยปัจจุบัน ACR ของกองทุนยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 3 เท่า และสามารถทำผลตอบแทนได้ดี รวมถึงเงินลงทุนที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ที่นำมาใช้ในการลงทุนผ่านการถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีพื้นฐานดี และได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง