SET in the City

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อขายหุ้นในวันนี้ (15 พ.ย.) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,348.39 ล้านบาท และเป็นการขายต่อเนื่องเป็นวันทำการที่ 5 ติดต่อกัน (9-15 พ.ย.) คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 7.27 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันหรือกองทุน ขายสุทธิเช่นกัน มูลค่า 1,532.27 ล้านบาท ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ระดับ 1,638.83 จุด ลดลง 13.47 จุด เปลี่ยนแปลง 0.82% มูลค่าการซื้อขาย 44,194.26 ล้านบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มองผลประกอบการของ บจ.ไม่ดีอย่างที่คิดไว้ โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางและบริษัทขนาดเล็กพลาดเป้าเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี การปรับลงของตลาดหุ้นไทยถือว่าสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ต่างปรับตัวขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดงาน SET in the city 2018 โดยมีดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมกับกล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยกล่าวว่า ตลาดทุนของไทยมีสถานะที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งหากเปรียบเทียบกับตลาดทุนในภูมิภาคเอเชียแล้วจะพบว่าตลาดหุ้นไทยเป็นรองแค่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเท่านั้น โดยมีผลตอบแทนการลงทุนในระดับสูง มีสภาพคล่องสูงที่สุดแห่งหนึ่ง และสามารถระดมทุนได้ในระดับสูง ท่ามกลางปัจจัยรุมเร้าทั้งสงครามการค้า รวมถึงความผันผวนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดเงินและตลาดทุนโลก พร้อมระบุว่า ต้องการจะเห็นการขับเคลื่อนของตลาดทุนไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางของตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การขจัดปัญหาและอุปสรรคในการลงทุนต่างๆ เพื่อช่วยในการดึงดูดให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยมากขึ้น นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การจัดงาน SET in The City ในปีนี้คาดว่าจะมีผุ้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่าปีก่อนๆที่มีผู้เข้าร่วมจำนวน 1.2-1.3 แสนคน และวางแผนที่จะให้ข้อมุลกับนักลงทุนผ่านระบบ หรือในรูปแบบดิจิทัล โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาร่วมงาน ทั้งนี้ ตลาดตั้งเป้านักลงทุนหน้าใหม่เพิ่มบัญชีเทรดหุ้นปีละ 1 แสนบัญชี ตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า