Shop License

ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา BEAUTY BUFFET เร่งบุกตลาด เปิดช่องทางการขายสู่ตลาด ค้าปลีกรูปแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) และค้าปลีกแบบดั้งเดิม (General Trade) เพิ่มขึ้นตามลำดับ เพื่อตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายของลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า รวมถึงการเพิ่มยอดขายให้แก่แบรนด์ ล่าสุดบริษัทมีแผนขยายช่องทางการขายรูปแบบใหม่ โดยให้สิทธิ์การเปิดร้านค้า (Shop License) แบบ KIOSK License เพื่อกระจายสาขาให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า เน้นโลเคชั่นในห้างสรรพสินค้าและย่านการค้าที่ใกล้แหล่งชุมชนและแหล่งทำเลการค้าต่างๆ ขณะเดียวกันเป็นการเปิดโอกาสให้พันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นบุคคลทั่วไป ผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีความสนใจในธุรกิจเครื่องสำอาง ได้มีโอกาสเข้าสู่ธุรกิจอย่างมีศักยภาพ สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม และแข่งขันกับแบรนด์เครื่องสำอางทุกประเภทได้อย่างครอบคลุม ผ่านแบรนด์ของ BEAUTY BUFFET ที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน โดยผู้ลงทุนที่สนใจ KIOSK License บริษัทจะให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ ได้แก่ 1. การออกแบบร้านและแพลนโนแกรม 2. การประสานงานพื้นที่เปิดร้านกับห้างสรรพสินค้า ในกรณีที่ผู้ลงทุนยังไม่มีพื้นที่เปิดร้าน 3. ระบบขายหน้าร้าน (POS) และระบบบริหารสินค้าคงคลัง 4. การฝึกอบรม ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการเปิดร้าน การขาย ตลอดจนการบริหารด้านการเงินและ Know-how ในการขาย และ 5. ระบบช่วยเหลือในการบริหารร้านและคำปรึกษาด้านการตลาด ทั้งนี้ KIOSK License เป็นร้านค้าขนาดพื้นที่ 12 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนเพียง 890,000 บาท ระยะเวลาคืนทุน 1 ปี 11 เดือนโดยประมาณ เงื่อนไขสัญญา 5 ปี ต่อ 5 ปี รวม 10 ปี เบื้องต้นตั้งเป้าหมายเปิด 10 สาขาในปีนี้ โดยบริษัทเตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เกี่ยวกับการลงทนในธุรกิจ Shop License พร้อมด้วยวิทยากรชื่อดังที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในธุรกิจความงาม ในวันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. – 16.00 น. โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-946 0700 ต่อ 444 Line @beautybuffetshop หรือ Email : info@beautycommunity.co.th นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าปรับเปลี่ยนนิยามและภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ภายใต้ร้าน BEAUTY BUFFET ไม่ว่าจะเป็นเซนทิโอ (SCENTIO) บิวตี้ คอทเทจ (BEAUTY COTTAGE) แลนซ์เลย์ (LANSLEY) และเมด อิน เนเจอร์ (MADE IN NATURE) หลัง BEAUTY BUFFET ประกาศปรับภาพลักษ์แบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี ด้วยคอนเซปต์ “For Every Beauty เพราะความสวยคือคุณ” อีกทั้งผลักดันไลน์เมคอัพอันโด่งดังอย่างแบรนด์จีโน่ แม็คเครย์ (GINO McCRAY) ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในอาเซียน ผ่าน “บัว - นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ” นักแสดงสาวสวย หน้าหวานแต่คงความเก๋ ซึ่งจะมาสะกดทุกลุคกับ LOOKS at ME ซีซั่นสอง : สะกด ทุกลุค ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเปิดตลาดต่างประเทศอย่างสวยงามและสนับสนุนให้ BEAUTY BUFFET ขยับขึ้นเป็นโกลบอลแบรนด์ได้อย่างมั่นคง รวมถึงบริษัทตั้งรับการเปิดประเทศด้วยแคมเปญ “เติมนมให้ผิวได้ทุกที่ด้วย SCENTIO MILK COLLECTION” เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนและประเทศอื่นๆ ผ่านสินค้าไลน์นมในตำนาน พร้อมช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้ง “BEAUTY BUFFET ยังคงมีแบรนด์ดีเอ็นเอที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ คือ การมีสินค้าที่หลากหลาย ในราคาประหยัด คุ้มค่า สบายกระเป๋า และที่สำคัญ คือ คุณภาพดี ในปี 2566 บริษัทยังเน้นกลยุทธ์ผลักดันสินค้าขายดีที่ได้รับความนิยมสูง ทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย และเมคอัพ ด้วยการสื่อสารกับลูกค้าผ่านพรีเซนเตอร์เจเนอเรชันใหม่ การสื่อสารด้วยคอนเซปต์ใหม่ผ่านแคมเปญการตลาดต่างๆ รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั่วประเทศแล้ว 50 สาขา” ดร.พีระพงษ์ กล่าว