TC9

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM จะรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ในวันอังคารที่ 9 พฤษภาคมนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าบริษัทจะกลับมามีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ หลังจากขาดทุนในไตรมาสที่ 4/2565 ที่ผ่านมา นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า THCOM มีกำหนดประกาศงบการเงินไตรมาส 1/2566 ในวันที่ 9 พ.ค. คาดกำไรสุทธิที่ 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรปกติไตรมาส 1/2566 จะอยู่ที่ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการใช้ประโยชน์ดาวเทียมที่ปรับตัวดีขึ้นและค่าเงินกีบที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ หรือ LTC ที่น้อยลง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ลดลง สำหรับดาวเทียมไทยคม 9 หรือ TC9 จากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของ THCOM เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ได้อนุมัติงบลงทุนจำนวน 1.52 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1) ค่าก่อสร้างและค่าปล่อยดาวเทียม 3 ดวง มูลค่า 1.23 หมื่นล้านบาท (ดาวเทียมไทยคม 9 หรือ TC9 ดวงที่ 1, TC9 ดวงที่ 2 และ TC9 ดวงที่ 3) 2) สถานีภาคพื้นดิน มูลค่า 2.1 พันล้านบาท และ 3) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตล่วงหน้า 800 ล้านบาท โดยผู้บริหารกำลังหาแหล่งเงินทุน เพื่อประมูลซัพพลายเออร์ และขายสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 9 ทั้ง 3 ดวง โดยเฉพาะ THCOM มีแนวโน้มที่จะสรุปแผนการลงทุนส่าหรับดาวเทียม TC9 ดวงที่ 1, TC9 ดวงที่ 2 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากอายุการให้ประโยชน์ทางวิศวกรรมของไทยคม 4 หรือ TC4 จะสิ้นสุดในปี 2567 ในระหว่างนี้ ผู้บริหารกำลังหางานใหม่ เพื่อขายช่องสัญญาณดาวเทียมจำนวนมากของดาวเทียม TC9 ดวงที่ 3 (ประมาณ 30-50%) ก่อนดำเนินโครงการดาวเทียม TC9 ดวงที่ 3 โดยมั่นใจได้ว่าอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ที่ดีของ โครงการ TC9 ดวงที่ 1, TC9 ดวงที่ 2 จะให้อัตราการใช้ประโยชน์ที่ 40-60% ที่สำคัญกว่านั้น ผู้บริหาร กล่าวว่า ผู้ให้บริการดาวเทียมและโทรคมนาคม ในภูมิภาคที่มีชื่อเสียง 2-3 รายแสดงความสนใจอย่างมากในการเป็นพันธมิตรกับ THCOM และจองช่องสัญญาณดาวเทียมจำนวนมาก (30-50%) ของดาวเทียมไทยคม 9 ดวงที่ 3 (100 กิกะบิต หรือ Gbps) และข้อตกลงน่าจะได้ข้อสรุปในอีก 3-4 เดือน ข้างหน้า ส่วนธุรกิจใหม่ ภายใต้เทคโนโลยีอวกาศ THCOM มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในด้านการเป็นผู้ให้บริการตรวจวัดคาร์บอนเครดิต และผู้อำนวยความสะดวกในการขายคาร์บอนเครดิต บริษัทฯ กำลังดำเนินการเพื่อรับรองแพลตฟอร์มการวัดที่พัฒนาขึ้นเองกับองค์กรระหว่างประเทศที่ได้รับการรับรอง และคาดว่าจะสามารถเปิดตัวบริการได้ภายในปีนี้ รวมถึง ธุรกิจใหม่อื่น ๆ เช่น โดรน การเดินเรือ เป็นต้น ผู้บริหารตั้งเป้าว่าธุรกิจเทคโนโลยีอวกาศจะ สร้างรายได้ประมาณ 10% ของบริษัทฯ ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า โดยปรับเพิ่มคำแนะนําจาก "ขาย" เป็น “ถือ” สําหรับ THCOM โดยคงราคาเป้าหมายสิ้น ปี 2566 ที่ 11.61 บาท ราคาหุ้นลดลง 30% จากจุดสูงสุดที่ 17.2 บาทในวันที่ 13 ก.พ. 2566 และยังปรับตัวลดลงมากกว่าดัชนี SET นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดผลประกอบการไตรมาส 1/66 ของ THCOM มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท แต่หากตัดผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 50 ล้านบาท ผลประกอบการปกติคาดมีกำไรที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, และเพิ่มขึ้น 869% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรที่โตเด่น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากฐานต่ำ สำหรับรายได้หลักคาดที่ 740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ของธุรกิจดาวเทียมทรงตัว เนื่องจาก THCOM ไม่ได้มีการเปิดตัวลูกค้าใหม่ที่มีนัยเพิ่มเติมในช่วงที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจาก THCOM ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเตรียมแผนการสร้างดาวเทียมดวงใหม่ 3 ดวง และเร่งการขายให้กับดาวเทียมดวงใหม่ อัตรากำไรขั้นต้นคาดที่ 45.0% เทียบกับ 44.8% ในไตรมาส 4/65 สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร คาดอยู่ที่ 215 ล้านบาท ลดลง 33.8% เทียบไตรมาสก่อนหน้า อย่างมีนัยสำคัญ เทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากไตรมาส 4/65 มีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวราว 90 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทฯ ร่วม (ส่วนใหญ่มาจากบริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ หรือ LTC) คาดขาดทุนที่ 20 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเทียบกับ ขาดทุน 54 ล้านบาทใน ไตรมาส 4/65 และขาดทุน 74 ล้านบาทใน 1965 ทิศทางค่าเงินกีบลาวเทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐที่มีเสถียรภาพมากขึ้น บวกกับผลประกอบการที่ดีขึ้นของ LTC ทำให้ผลขาดทุนลดลง แนะนำซื้อ “THCOM” ให้ราคาเป้าหมาย 18.90 บาท