TESG2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่วันนี้ (25 ก.พ.68) ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันหนัก ดัชนีร่วงแตะระดับ 1,213 จุด สร้างความกังวลกับนักลงทุนเป็นอย่างมากนั้น เรื่องนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า ตลาดหุ้นไทยเคยแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,200 จุด ก่อนปรับตัวขึ้นไปกว่า 1,400 จุด ซึ่งเป็นหลักฐานว่า ความเชื่อมั่นมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด ทั้งนี้ รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เกือบครบแล้ว รวมทั้งจัดการ กับการขายชอร์ต (Short Sell) อย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างคัดเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีศักยภาพเพื่อสนับสนุนตลาดทุนไทย “ทั้งหมดเรารู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของความเชื่อมั่น มีทั้งเรื่องเทคนิคที่จะต้องแก้ วิธีการเทรด เรื่อง Short Sell เราแก้ไปเกือบหมดแล้ว ทีนี้มันก็จะเหลือแต่ว่าทำให้ผลิตภัณฑ์อยู่ในทิศทางที่ใช่ ก็จะต้องค่อย ๆ คัดผลิตภัณฑ์ที่ดี เดี๋ยวจัดไปมันก็จะเข้าเรียบร้อย ทั้งหมดมันก็จะผูกกับเศรษฐกิจประเทศไทย ผมก็เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจดี เดี๋ยวมันก็ต้องอยู่ได้” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าว นายพิชัย ได้กล่าวถึงกองทุน “Thai ESG2” ซึ่งจะเป็นกองทุนที่มารองรับการโยกเงินจากกองทุน LTF ที่ครบอายุ จะเป็นปัจจัยช่วยพยุงตลาดให้ดีขึ้นได้หรือไม่ว่า หากโครงสร้างของกองทุนใหม่นี้สามารถสร้างความได้เปรียบเหนือกองทุนเดิมที่หมดอายุไปแล้ว ก็มีโอกาสช่วยเสริมเสถียรภาพของตลาดทุนไทย “ถ้าเราทำตัวใหม่มา แล้วมันดีกว่ากองเก่าซึ่งหมดอายุ ก็น่าจะช่วย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุ นายพิชัย กล่าวทิ้งท้ายยืนยันว่า รัฐบาลยังคงตั้งเป้าหมายให้ GDP ปี 2568 เติบโตมากกว่า 3% แต่จะต้องติดตามสถานการณ์ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 อย่างใกล้ชิด หากสามารถรักษาโมเมนตัมของเศรษฐกิจไว้ได้ ตัวเลข GDP ก็น่าจะยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่วางไว้