The Alternative Fundraising for the Green Tech Era กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานคณะกรรมการการแข่งขัน CMCC ปี 2567และประธานกรรมการชมรมวาณิชธนกิจ สมาชิกบริษัทหลักทรัพย์ไทย (IB Club) เปิดเผยว่า ได้เป็นผู้ร่วมสนับสนุนจัดการแข่งขัน “The Alternative Fundraising for the Green Tech Era” Capital Market Case Competition 2024 (CMCC) หรือ การแข่งขันเคสตลาดทุนประจำปี 2567 ซึ่งนับเป็นการแข่งขันเคสตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 โดยความร่วมมือระหว่าง IB Club ร่วมกับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาการเงินและการลงทุน ฟินน์คอร์ป (FynnCorp Advisory) และที่สำคัญ คือ กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ที่สนับสนุนโครงการนี้ให้เกิดขึ้นมุ่งหวังเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยและศักยภาพเยาวชนรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้นักศึกษาที่สนใจด้านการเงินการลงทุนมาร่วมปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ และภายใต้แนวคิดการระดมทุนเพื่อพัฒนาโลกไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว สอดรับนโยบายภาคการเงินไทยที่มุ่งสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้มีมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการกำกับดูแลความเสี่ยง พร้อมส่งเสริมให้ภาคการเงินมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งเทรนด์การพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียว (Green Tech) ด้วยแนวทางการระดมทุนแบบทางเลือก (Alternative Fundraising) เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและน่าสนใจในยุคนี้ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการเรียนรู้จากมืออาชีพในวงการที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์โดยกลุ่ม Investment Banker อีกทั้งนอกจากจะได้พัฒนาทักษะความรู้ความสามารถแล้วการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ร่วมงานกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินชั้นนำของประเทศอีกด้วย และมากไปกว่านั้นยังได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่าพร้อมด้วยความร่วมมือจาก บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ผู้นำธุรกิจสื่อและความบันเทิงแบบครบวงจร มาร่วมเป็น Case Company เพื่อเป็นการการติดอาวุธก่อนออกสู่สนามอาชีพ นายพรพุทธ ริจิรวนิช ผู้อำนวยการการแข่งขัน CMCC 2024 และในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุน FynnCorp ผู้วางแนวคิดก่อตั้งโครงการแข่งขันเคสตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชน นิสิต และนักศึกษาที่สนใจเรื่องการเงินและตลาดทุนได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการปลดล็อกศักยภาพตลาดทุนไทยและพัฒนาตนเองไปพร้อมๆ กัน พร้อมร่วมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกันกว่า 270,000 บาท ซึ่งงาน Capital Market Case Competition 2024 ในปีนี้ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Alternative Fundraising for the Green Tech Era” มุ่งหวังสร้างการตระหนักรับรู้ และวางรากฐานให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันได้คิดค้นและนำเสนอวิธีการใหม่ๆ ในการระดมทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียว โดยจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกและสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งให้เปิดรับเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้มีน้องนิสิตนักศึกษาให้ความสนใจมากกว่า 1,500 คน เข้าร่วมโครงการในปีนี้โดยกำหนดวันประกาศผลการตัดสินการแข่งขันในรอบสุดท้าย พร้อมประกาศทีมที่ชนะเลิศ ในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ขณะที่นอกเหนือการแข่งขันยังมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์มากมาย อาทิ การเข้าร่วมเวิร์คช็อปเข้ารับคำแนะนำจากเมนเทอร์ที่มีประสบการณ์ และบริษัทชื่อดังชั้นนำระดับประเทศ รวมทั้ง การได้เข้าเยี่ยมชมกิจการบริษัท, การเพิ่มทักษะ, ความรู้และเปิดประตูสู่สายอาชีพที่ปรึกษาทางการเงินชั้นนำของประเทศไทย รวมทั้งการฝึกงานกับบริษัทชั้นนำของเมืองไทยอีกด้วย นายจักรชัย บุญยะวัตร ผู้จัดการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) กล่าวเสริมว่า โครงการการแข่งขันเคสตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย Capital Market Case Competition (CMCC) ประจำปี 2567 ภายใต้โครงการการแข่งขันกรณีศึกษาด้านวาณิชธนกิจเพื่อตลาดทุนนับเป็นโอกาสอันดีที่จะมาร่วมขับเคลื่อนตลาดทุนไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา จำนวนบริษัทจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (“mai”) ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นความสนใจของกิจการที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่ือระดมทุนเช่นเดียวกับตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีจำนวนตราสารและมูลค่าที่เสนอขายต่อนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น บุคลากรด้านวาณิชธนกิจจึงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันตลาดทุนไทยให้ก้าวหน้า การแข่งขันในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการเพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรด้านที่ปรึกษาทางการเงิน ดึงดูดให้นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ และนักศึกษาจบใหม่ที่มีความสามารถ ให้เข้ามาทำงานในตลาดทุนมากยิ่งขึ้น โดยกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน หรือ CMDF มีบทบาทและพันธกิจเพื่อส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิภาพของตลาดทุนไทย โดยหนึ่งในพันธกิจสำคัญของ CMDF คือการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ตลาดทุน การลงทุนและการพัฒนา ตลาดทุน ให้แก่ ผู้ลงทุน ประชาชน หน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง จึงได้สนับสนุนชมรมวาณิชธนกิจ สมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และบริษัท ฟินน์คอร์ป แอดไวซอรี่ จำกัด ในการจัดทำโครงการการแข่งขันกรณีศึกษาด้านวาณิชธนกิจเพื่อตลาดทุน เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และสนับสนุนการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการเงินและตลาดทุนแก่เยาวชนไทยผ่านเครื่องมือทางการเงินประเภทต่าง ๆ ซึ่งใช้ CMCC Platform ในการจัดอบรมกิจกรรม Workshop และการได้ลงมือปฏิบัตินำเสนอความคิดผ่านการแข่งขัน CMCC ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ขณะที่การแข่งขัน CMCC 2024 ในครั้งนี้ ถือเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “The Alternative Fundraising for the Green Tech Era” เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 150 ทีม ได้คิดค้นและนำเสนอวิธีการใหม่ ๆ ในการระดมทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียว และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันใครั้งนี้ จะช่วยเปิดโอกาสให้นักศึกษาปริญญาตรีที่สนใจเรื่องตลาดทุนได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการปลดล็อคศักยภาพและพัฒนาตนเอง พร้อมกับช่วยกันพัฒนาตลาดทุนไทยไปพร้อม ๆ กัน ด้าน นายนรัญจ์ พุ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน กลุ่ม บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ผู้นำธุรกิจสื่อและความบันเทิงแบบครบวงจรที่พร้อมส่งมอบความสุขให้แก่ผู้ชมทุกเพศทุกวัย เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ได้รับเกีนรติเป็น Case Company ในการแข่งขันเคสตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้โครงการ Capital Market Case Competition (CMCC) ประจำปี 2567 และสะท้อนการได้รับความเชื่อมั่นในการพัฒนาธุรกิจของ ONEE นับตั้งแต่ความสำเร็จที่หุ้น ONEE เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมากว่า 2 ปี ทั้งนี้นับเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ของประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย ด้วยโมเดลธุรกิจที่โดดเด่นและแตกต่าง สร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพเพื่อส่งมอบความสุขให้คนไทยและทั่วโลก จึงมุ่งหวังว่า บริษัทฯ จะเป็นCase Company ในการแข่งขัน ให้น้องๆ นิสิต นักศึกษาในโครงการได้สร้างความพร้อม และเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ ก่อนเข้าสู่การทำงานที่ปรึกษาทางการเงินอย่างมืออาชีพ และพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต