TRUE ใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 มี.ค.) หุ้น TRUE ใหม่ หลังควบรวมบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTACกับ DTAC จะกลับเข้าเทรดเป็นวันแรก ซึ่งนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายไว้ระหว่าง 10.32-10.40 บาทต่อหุ้น โดยนายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ระบุว่า ราคาหุ้น TRUE ใหม่ที่จะเทรดวันนี้ คาดว่าจะมีการเหวี่ยงที่รุนแรงในช่วงแรกของการซื้อขาย เนื่องจากไม่มีการกำหนดราคาพื้นฐานไว้ หลังจากควบรวมกับดีแทค และยังไม่มี “ซีลลิ่ง-ฟลอร์” ด้วย ทำให้แนวโน้มราคาค่อนข้างเปิดกว้างมาก “ถ้าราคาเปิดตามเงื่อนไขนี้ โอกาสที่จะปรับขึ้นก็มีสูง การทำราคาหุ้นทำได้ไม่ยาก แต่ก็อาจมีการทุบหุ้นเพื่อเอาของ ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายไหนจะมีกำลังมากกว่ากัน” นายพิสุทธิ์ กล่าว อย่างไรก็ตาม ได้ประเมินราคาเหมาะสมของหุ้น TRUE ใหม่หลังควบรวมไว้ที่ 8.51 บาท และราคาเป้าหมายที่ 10.32 บาท โดยคาดว่า กำไรสุทธิปีนี้ของทรู จะอยู่ที่ 3-4 พันล้านบาท และจะเริ่มมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 1/66 ทั้งนี้ กระแสเงินสดของ TRUE จะกลับมาเป็นบวกประมาณปี 2567 จากปัจจุบันที่ติดลบอยู่ 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากหลังควบรวมกิจการกับดีแทคแล้ว จะทำให้เกิดการประหยัดต้นทุนทำให้กระแสเงินสดค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยหุ้น TRUE มีความน่าสนใจมากขึ้น เมื่อเทียบกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC นอกจากนี้หลังการควบรวมกิจการ TRUE มีโอกาสสูง ที่จะเข้าคำนวณใน SET50 และ MSCI เนื่องจากมีมาร์เก็ตแคปที่สูง 2.94 แสนล้านบาท สอดคล้องกับมุมมองของ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ประเมินมูลค่าหุ้น TRUE ใหม่ไว้ที่ 10.40 บาท โดยมองว่า ตลาดจะกลับมาให้น้ำหนักกับการ SYNERGY ที่เกิดขึ้น หลังจากตั้งบริษัทใหม่ ด้านนายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กล่าวว่า การควบรวมบริษัทระหว่าง TRUE และ DTAC เป็นการรวมศักยภาพจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัท มุ่งสู่ผู้นำด้าน Telecom-TECH Company ชูแนวคิดชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน (Better Together) ผสานพลังรวมกัน 1+1 เท่ากับอินฟินิตี้ สร้างศักยภาพความเป็นไปได้ใหม่ที่ไม่รู้จบ โดย TRUE จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดมือถือ ทรูมูฟเอช 33.8 ล้านเลขหมาย และดีแทค 21.2 ล้านเลขหมาย รวม 55 ล้านเลขหมาย ขณะที่ตลาดบรอดแบนด์ ทรูออนไลน์มี 5 ล้านราย และทรูวิชั่นส์ 3.2 ล้านราย โดยตามเงื่อนไขการควบรวมของสำนักคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นั้น ทางบริษัทจะมีการรวมหนี้สิน ทรัพย์สิน จำนวนหุ้น แต่ยังคงดำเนินการทั้งสองแบรนด์ TRUE และ DTAC ตามปกติ อย่างไรก็ตาม หลังจาก 3 ปี จึงจะมีการปรับแผนการดำเนินงานใหม่ ซึ่งการควบรวมในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านธุรกิจและการให้บริการ โดยมั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งสองแบรนด์ได้มากขึ้น พร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคตได้เป็นอย่างดี ก้าวสู่ Digital Transformation นำเสนอเทคโนโลยี พร้อมกับมองว่าเป็นโอกาส New Ocean ของบริษัท เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าใช้ชีวิตได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และจะมีการลงทุนทางด้านโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง