USMCA

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดทำการในวันนี้ (7 มี.ค.) ด้วยทิศทางที่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนให้ความสนใจกับการเปิดเผยข้อมูลการค้าของจีนในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งมีกำหนดรายงานในวันอาทิตย์นี้ โดยดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในภูมิภาคต่างปรับตัวลดลง โดยดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,198.30 จุด ลดลง 506.63 จุด หรือคิดเป็น 1.34% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 24,182.02 จุด ลดลง 187.69 จุด หรือ 0.77% ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปรับตัวลดลง 7.92 จุด หรือ 0.23% มาอยู่ที่ 3,373.18 จุด ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นออสเตรเลียและเกาหลีใต้ก็ได้รับแรงกดดันเช่นกัน โดยดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.28% ส่วนดัชนี KOSPI ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง 1.15% ด้านความเคลื่อนไหวทางการค้าของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) ว่า จะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ออกไปจนถึงวันที่ 2 เมษายน โดยการยกเว้นภาษีดังกล่าวครอบคลุมสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ทรัมป์ได้ประกาศเลื่อนเวลาการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไปเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินนโยบายที่ยังไม่มีความแน่นอนในประเด็นทางการค้าระหว่างประเทศ ส่วนของจีน สำนักงานศุลกากรจีนเตรียมเปิดเผยข้อมูลการค้าในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ในวันอาทิตย์นี้ โดยผลสำรวจจากรอยเตอร์ระบุว่านักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดส่งออกของจีนจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ระดับ 5% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าคาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1% ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มของเศรษฐกิจจีนและมีผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในระยะต่อไป