V-Shape

*ในระหว่างที่ “โมนิก้า” กำลังนั่งปั่นต้นฉบับ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับแฟนคลับอยู่นั้น ก็เกิดอาการเสียวสันหลังขึ้นมาทันที เพราะดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดันหัวปักลงดินอีกครั้ง พร้อมกับเกิดประเด็นลบมากมายให้นั่งขบคิดแบบนี้ จึงกลายเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้นักเล่นต้องรีบทิ้งหุ้นเมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เชื่อว่า ดัชนีจะเคลื่อนตัวในลักษณะ V-Shape ล้านเปอร์เซ็นต์ไงล่ะคะ *ประกอบกับเที่ยวก่อนเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มโดนขายในจังหวะที่พยายามเทคตัวผ่านแนวต้าน 1,680 จุด และโดนอิทธิพลของดัชนีดาวโจนส์เล่นงานแบบหนักหน่วง จนสุดท้ายต้องลงไปนอนกองอยู่ที่ 1,617 จุด ก่อนจะตีตื้นขึ้นมาต่อเนื่อง 4 วันติด พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 1,661.75 จุด บวกไป 12.94 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.94 หมื่นล้านบาท ก็เป็นการวัดใจผู้เล่นจะเอาอย่างไรต่อนะจ๊ะ *เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถออกได้หลายหน้า ไม่ว่าจะเป็นการทะยานขึ้นไปหาแนวต้าน 1,680 จุดเป็นครั้งที่ 2 (ภาษาเทคนิคเรียกว่า ดับเบิ้ลท็อป) หรืออาจแกว่งตัวออกด้านข้าง หลังจากพลิกแนวต้าน 1,650 จุดให้กลายเป็นแนวรับสำเร็จ ไม่เว้นแม้กระทั่งการทรุดฮวบลงไปที่ฐานแนวรับสำคัญ 1,600 จุดอีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับดาวโจนส์ที่เป็นตัวชี้วัดออกไปในทางไหนนะจะบอกให้ *ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงหุ้นสุดเลิฟอย่าง EA ขึ้นมาในทันที เพราะแพทเทิร์นของหุ้นในช่วง เดือนครึ่งที่ผ่านมาเป็นแบบ V-Shape แถมมีกรอบเคลื่อนไหวที่ชัดเจนอยู่ในระดับ 90-100 บาท และเหตุการณ์ลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นมาทั้งหมด 2 ครั้ง แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นนิดหนึ่งคือ หุ้นดันมีจุดต่ำสุดใหม่เกิดขึ้นให้เห็นเหมือนกัน จึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเอาเองว่า การยืนปิดที่ 91.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.67 พันล้านบาท เทียบกับอนาคตอันสดใสสวยงาม เหมาะต่อการโหนกระแสขนาดไหนค่ะ *ส่วนในรายของ GUNKUL ก็มีรูปแบบการเคลื่อนตัวเป็นวีตัวเล็กเกิดขึ้นถี่ยิบ และที่น่าสนใจคือ หุ้นดันทำฐานใหม่สูงขึ้นต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า ไฟต์นี้จะไล่กันยาวอีกกระมัง! เพราะเมื่อดูไทม์ไลน์ของการเบ่งกำไรในแต่ละช่วง มันทำให้เดี๊ยนต้องกัดมุมปาก พร้อมเผยอปากร้องซี๊ดซ๊าดเป็นระยะ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งช็อตที่ต้องเม้าท์เป็นประจำเมื่อมีปรากฏการณ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น และเป็นช็อตที่อยากให้คนเล่นมองกันเองว่า การปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.55 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ไปต่อไหม? *อีกหนึ่งช็อตเด็ดที่เห็นกันทนโท่ว่า โตชัวร์! เพราะวงรอบของการเก็บเงินครบลูปเป็นที่เรียบร้อย “โมนิก้า” จึงอยากให้นักเล่นมองภาพการซื้อหนี้มาบริหารต่อจากนี้คือ โบนัสก้อนใหญ่ที่จะทำให้ JMT กลายเป็นเจ้าตลาดอย่างสมบูรณ์แบบ จึงเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า แวลูของหุ้นจะสูงขึ้นทุกปี และการยืนปิดที่ระดับ 67 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท เทียบกับยอดเดิมเมื่อต้นเดือนก่อนที่ระดับ 70 บาท จึงน่าเล่นตามสุด ๆ เพราะราคาเป้าหมายที่โบรกเกอร์ให้ไว้อยู่แถว 80 บาทพะยะค่ะ *ในเมื่อเปิดประเด็นการขยับแบบตัววีขึ้นมาทั้งที ย่อมเป็นแรงกระเพื่อมที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องแอบมองไปที่หุ้น CK เพื่อชี้ให้เห็นรูปแบบดังกล่าวเคยเกิดเมื่อกลางเดือน พ.ย. ต่อเนื่องถึง ธ.ค. ปีที่แล้ว แถมมีฐานราคาอยู่ที่ระดับ 20.80-23.50 บาทเสียด้วยแบบนี้ มันน่าตามไปดูเสียจริง ๆ เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 22.60 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 7.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 459 ล้านบาท ช่างน่าสนใจอย่างแรงในมุมของเทคนิคน่ะซี *คล้ายกับการขยับขึ้นต่อเนื่องของหุ้น UBE ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา น่าจะเป็นสัญญาณที่บอกให้ขาลุยได้รู้ว่า เที่ยวนี้จะเป็นการวัดกำลังของผู้เล่นแต่ละฝั่ง ซึ่งเป็นเกมที่ต้องดูกันยาวพอสมควร เพราะทุกคนเคยเห็นกันมาแล้วว่า หุ้นเล่นบนกรอบใหญ่บริเวณ 2.10-2.44 บาทเป็นเวลาสองเดือนเต็ม ๆ ส่งผลให้การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.34 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 171 ล้านบาท คือเดิมพันในการยกฐานให้สูงขึ้นกว่ากรอบเดิมนะจ๊ะ *ตบท้ายกันที่หุ้น BRI กันสักหน่อยดีกว่า เพราะการเคลื่อนตัวตรงตามปกที่เดี๊ยนได้เกริ่นนำไว้ จึงขอสรุปแบบคร่าว ๆ ว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 13.30 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 11.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 266 ล้านบาท โดยมียอดบนอยู่แถว 14.50 บาท และมีจุดรับด้านล่างอยู่ที่ 11.50 บาท บอกอะไรให้รู้บ้าง? น้องโมคงไม่ต้องสาธยายอะไรไปกว่านี้ เดี๋ยวเขาจะหาว่า เดี๊ยนออกหน้าแทน “พี่โด่ง” เกินงาม..อิอิอิ